การเดินทางในครั้งนี้ ไม่ใช่การเดินทางสำเร็จรูปอย่างการไปทัวร์ หรือการเดินตามรอยโปรแกรมตามหนังสือท่องเที่ยวแนะนำ เวลา 7 วันที่เราสองคนจะไปท่องเที่ยวต่างเมือง จึงเป็นเวลาของเราเองทุกนาที เราสองคนไม่ใช่เพื่อนบ้านที่จะไปมาหาสู่กันประจำ การนัดพบกันจึงไม่ใช่ทำได้บ่อยๆ เวลาที่เราจะมาพบกัน ต้องเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ต้องได้ข้อสรุปเส้นทางที่เราจะไปให้มากที่สุด
เราสองคนตกลงกันว่าจะค้นหาข้อมูลจากหนังสือท่องเที่ยวที่มีอยู่ในบ้าน แล้วเอามาคุยกันในวันที่นัดค่ะ สถานที่นัดคือบ้านของจันเอง น้ำ อาหาร ขนม เน็ท ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นั่งนานไม่มีใครว่า คอมพิวเตอร์มีให้ใช้ หนังสือก็ค้นได้ การมานั่งคุยกันที่บ้านของคนใดคนหนึ่ง จันว่าเป็นวิธีที่ดีกว่านัดการตามร้านกาแฟเป็นไหนๆ
ในการวางแผนท่องเที่ยวโตเกียว จันแนะนำให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ค่ะ
- ศึกษาข้อมูลและภาพรวมของแต่ละย่าน เพราะแต่ละย่านในโตเกียวจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป จดย่านที่เราอยากจะไปไว้ แต่ยังไม่ต้องลงละเอียดก็ได้นะคะ ว่าจะไปร้านไหนบ้าง ตั้งแต่กี่โมง
- นำย่านที่จดไว้ของทั้งสองคนมารวมกัน แล้วมาร์คจุดตามสถานีรถไฟค่ะ เราจะได้ดูว่าย่านไหนใกล้กัน ใช้เส้นทางเดียวกันได้ จะได้ตะลุยจัดวันได้ง่ายค่ะ แผนที่จันขอแนะนำของ Suica Pass นะคะ เพราะว่าครอบคลุมรถไฟหลายสาย หลายเจ้า จะได้ไม่ต้องเอาแผนที่ของหลายเจ้ามาเทียบกันให้วุ่นวาย โหลดเป็น pdf ได้ที่นี่ (ตอนนี้ยังไม่ต้องหาทางว่าเราจะนั่งรถไฟสายไหนนะคะ มาร์คสถานีรถไฟที่เราจะไปก่อนก็พอ)
- เมื่อเห็นแล้วว่าสถานีไหนใกล้ๆ กัน ไปทางเดียวกันได้ ก็ให้จัดวันเที่ยวอยู่ในวันเดียวกัน ลากเส้นเส้นทางไว้ก่อน แล้วก็เวลาจัดให้ตั้งต้นและจบท่ีสถานีที่เราขึ้นรถไฟค่ะ (ก็คือสถานีที่ใกล้โรงแรมที่สุดนั่นเอง) แนะนำให้ทำแผนที่แยกวันไปเลยค่ะ จะได้เห็นชัดๆ นะ ด้านล่างเป็นตัวอย่างที่จันทำโดยใช้คอมพิวเตอร์ ใครไม่ถนัด นำไปปริ้นท์ขาวดำแล้ววาดมือก็ได้เหมือนกันค่ะ
- เมื่อได้ Route ตามจำนวนวันที่เราจะไปเที่ยวแล้ว ให้กำหนดวันไปเลยค่ะ ว่าวันไหนจะไปที่ไหน โดยให้ดูตามเวลาที่มีอยู่ อย่างเช่น วันแรกที่เรามาถึง ต้องเสียเวลาจากแอร์พอร์ตมาเก็บกระเป๋าที่โรงแรม อาจมีเวลาเพียงครึ่งบ่ายถึงค่ำๆ ก็ลองดู Route ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทาง หรือวันไหนว่างทั้งวัน ไม่มีโปรแกรมเปลี่ยนโรงแรม และไม่ใช่วันไป วันกลับ ก็ควรใช้วันนั้นให้คุ้มค่า อาจวาง Route เที่ยวตั้งแต่เช้ายันค่ำ หรือไปเที่ยวไกลจากที่พักสักหน่อย หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบไปเช้าเย็นกลับสักวันหนึ่ง และอย่าลืมดูวันพิเศษของแต่ละย่าน เช่นถ้าไปฮาราจูกุแล้วอยากดูหนุ่มสาวญี่ปุ่นแต่งตัวจัดเต็ม ก็ต้องไปวันอาทิตย์อย่างนี้เป็นต้นค่ะ
- เมื่อได้สถานีที่และวันเที่ยวแล้ว ให้ใช้เว็บไซต์ช่วยแนะนำเส้นทางรถไฟค่ะ
- Japanese Train Route Finder เปิดเข้าไปหน้าตาแบบนี้ค่ะ
- หลังจากนั้นจะมีให้เลือกสถานีเพื่อยืนยันอีกที บางครั้งสถานีชื่อคล้ายกันน่ะค่ะ แต่อยู่คนละที่ จะใช้รถไฟไม่เหมือนกัน ก็เลือกสถานีที่ต้องการอีกทีนึง จากลิสต์ที่เขามีให้
- จะมี option ให้เราเลือกเลยค่ะ ว่าเราไปโดยใช้รถไฟอะไรได้บ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่
- เท่าที่จันสังเกตดู ยิ่งต่อเยอะเท่าไหร่ ยิ่งเสียค่าใช้จ่ายแพงขึ้นเท่านั้นค่ะ ถ้าใครกลัว ว่าจะต้องซื้อบัตรวุ่นวายให้ซื้อบัตรเติมเงิน Suica ไปเลยค่ะ บัตรนี้จะหมดอายุหากไม่ได้ใช้ภายใน 10 ปี ค่าซื้อบัตร 2000 เยน (มัดจำบัตร 500 เยน ถ้าคืนบัตรจะได้คืน แล้วก็ใช้เงินในบัตรได้ 1500 เยน จะเติมเงินให้พอสำหรับ 7 วันไปเลยก็ยิ่งดีค่ะ เพราะเราคำนวณค่าใช้่จ่ายได้อยู่แล้ว ถ้าเกิดตอนจะคืนบัตรยังมีเงินเหลือ เขาก็คืนเงินให้ แต่หักค่าธรรมเนียม 210 เยน นอกจากว่าจำนวนเงินที่เหลือจะไม่ถึง 210 เยนถึงจะคืนเงินให้เต็มจำนวนค่ะ) ไม่ว่าเข้าออกสถานีอะไร ก็แค่แตะบัตรแล้วเดินเข้าออกได้เลยค่ะ อ้อ ลืมบอกว่าใช้แทนเงินสดตามร้านค้าต่างๆ ได้ด้วยนะ
- แต่ถ้าหากเพื่อนๆ จะซื้อตั๋วแบบตั๋วเหมาแบบ 1 วันหรือสองวันของ Tokyo Metro (ราคา 1 วัน 710 เยน แบบสองวันติดกัน 980 เยน) แล้วตั้งใจจะใช้บริการโตเกียวเมโทรอย่างเดียวเลย ให้ใช้เว็บช่วยแนะนำสถานีรถไฟของโตเกียวเมโทรโดยตรงเลยค่ะ แต่การใช้รถไฟของเจ้าเดียวอาจเสียเวลาและต้องเปลี่ยนรถไฟมากกว่าในบางเส้นทางนะคะ เช่น จากสถานี Shinjuku ไปสถานี Minami Senju ถ้าใช้ JR จะเสีย 210 เยน ใช้เวลา 27 นาที แต่ถ้าใช้ Tokyo Metro จะต้องใช้เวลาถึง 53 นาที เพราะเส้นทางของ JR นั้นสั้นกว่า ไม่ต้องไปอ้อมไกลค่ะ
- ให้เราใช้เว็บช่วยทุกๆ สถานีที่เราจะไปเที่ยวเลยค่ะ ตั้งแต่ออกจากที่พักจนถึงเข้าที่พัก แล้วจดออกมา เพื่อที่ว่าตอนเดินทางจริง เราจะได้ขึ้นลงชานชาลาได้ถูกต้อง เวลาจด ไม่ใช่จดแค่ว่าขึ้นสถานีไหน เปลี่ยนสถานีที่ไหน แล้วลงที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ที่สำคัญคืออย่าลืมจดด้วยว่าเราต้องขึ้นรถไฟของเจ้าไหน สายอะไร ขึ้นผิดสายก็ไปผิดที่ได้นะคะ
พอได้เห็นแล้วว่าเราต้องใช้รถไฟของเจ้าไหน สายอะไรบ้าง ตอนนี้เราค่อยมาพิจารณาก็ได้ค่ะ ว่าจะซื้อบัตรแบบไหน ถึงจะคุ้มค่ากับเราที่สุด - สุดท้ายเราค่อยมาลงรายละเอียด ว่าจะเข้า จะออก จะช๊อป จะชิมร้านไหน และออกเดินทางกี่โมง อยู่ย่านนี้ย่านนั้นนานเท่าไหร่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้จำกัดมาก อาจขึ้นอยู่กับเราด้วยว่าพอไปถึงจริงๆ แล้วชอบหรือไม่ชอบมากกว่าค่ะ
เอาล่ะค่ะ ตอนนี้การเตรียมการก็เกือบจะพร้อมแล้ว ครั้งหน้าจันจะมาเล่าเทคนิคการเตรียมของและการแลกเงินสำหรับเดินทางให้ฟังนะคะ
โปรดติดตามกันด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่า
*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
– แอดหนูจัน – บล็อกเกอร์ตัวกลม อารมณ์ดีที่ชอบหาอะไรทำสนุกๆ ภายในบ้าน รักการเขียน การอ่าน การวาดรูป และการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องเขียน อุปกรณ์งานฝีมือและอุปกรณ์ศิลปะ Craft it Myself • Draw my Life • Create my World