หายหน้าหายตาไปกับชีวิตวุ่นๆ แฮะๆ ขอโทษด้วยนะคะ
กลับมาอัพบล็อคแล้ววว—-

วันนี้จะพาไปช็อปกันต่อ ครั้งก่อนแนะนำให้รู้จักร้าน Tokyu Hands กันแล้ว
ครั้งนี้จะพาไปร้าน 100 เยนที่มีอุปกรณ์ DIY ครบครัน และร้านหนังสือ Design ที่นักออกแบบควรไปหาแรงบันดาลใจสักครั้งค่ะ

T-SITE Tsutaya Books Daikanyama : ร้านหนังสือที่มีหนังสือ Design ครบครันที่สุด

โอ้ย ร้านนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ เป็นร้านที่ทำให้ทรัพย์จางที่สุดในทริปนี้เลยค่ะ นั่นคือร้าน Tsutaya Books Daikanyama นั่นเอง

Location ตามรอย

เดินจากสถานีรถไฟไปไกลพอสมควรค่ะ แต่เดินไปเรื่อยๆ ก็สนุกดี มีบ้านเรือน ร้านค้าน่ารักๆ เยอะ เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง ร้านเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึงตี 2 ค่ะ

รู้จัก T-SITE Tsutaya Book

ถ้าจะให้คำจำกัดความร้านนี้ก็คือ ร้านหนังสือ คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านเครื่องเขียน และร้านเช่าเพลงและหนังรวมกันในที่เดียวกัน ความพิเศษของร้านนี้คือหนังสือมีทั้งของญี่ปุ่นและของต่างประเทศ แถมหนังสือยังไม่ใช่หนังสือตลาดๆ ธรรมดาๆ แต่เป็นหนังสือสาย Art สาย Design และพวกหนังสือภาพราคาแพงๆ อีกด้วย !

ในบริเวณอันร่มรื่นจะมีอาคารสามอาคารด้วยกันค่ะ ทั้งสามอาคารจะมีประตูตรงกัน เรียกว่า Magazine Street ซึ่งมีนิตยสารญี่ปุ่นแทบทุกหัวเรียงรายอยู่

T-Site Daikanyama นั้นมีคอนเซปต์ร้านที่เหมือนเป็นห้องสมุดกลางป่า ภายในร้าน นอกจากจะขายหนังสือแล้ว ยังเป็นสเปซให้ทุกคนได้หยิบหนังสือมาอ่าน มาใช้เวลาไปกับการอ่านอย่างสบายๆ จิบกาแฟไป อ่านหนังสือไป โดยไม่จำเป็นต้องซื้อหนังสือก่อน ซึ่งร้านหนังสือแห่งนี้ก็ติดหนึ่งใน 20 ร้านหนังสือที่สวยที่สุดในโลกของเว็บไซต์ Flavorpill ด้วย

โซนตรงนี้เป็นหนังสือด้าน Design ค่ะ เป็นโซนหนังสือญี่ปุ่น ที่เห็นนี้เป็นหนังสือของสำนักพิมพ์ PIE BOOK ครบมาก !!! ปกติจะหายากพอสมควรค่ะ เพราะเป็นหนังสือเฉพาะด้าน มีราคาแพง ไม่เห็นตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป ที่บ้านเรามีขายที่ Asiabooks กับ Kinokuniya ค่ะ ทุกเล่มสามารถยืนอ่านได้ ชอบใจก็ซื้อก็สอยกลับบ้านไป

ซื้อ / ไม่ซื้อ

ที่ T-Site ขายหนังสือราคาเต็ม แต่ของจันเพราะซื้อเกินขั้นต่ำก็เลยได้ลดภาษีค่ะ
คำถามคือ ถ้าจันซื้อหนังสือราคาเต็มที่ญี่ปุ่น กับซื้อที่ไทยจะแตกต่างกันเท่าไหร่

• 配色アイデア手帖－めくって見つける新しいデザインの本［完全保存版］(หนังสือเกี่ยวกับสี)
  ราคาเล่มละ 1780 เยน คิดเรทเงินไทย 0.29 บาท จะเป็นเงิน 516.2 บาท
  ถ้าซื้อที่คิโนะคุนิยะ ราคา 733 บาท
• もっと！女性の心をつかむデザイン (หนังสือรวมงาน Design โฆษณา)
  ราคาเล่มละ 5800 เยน คิดเรทเงินไทย 0.29 บาท จะเป็นเงิน 1682 บาท
  ถ้าซื้อที่เอเชียบุคส์ ราคา 1795 บาท
  ถ้าซื้อที่คิโนะคุนิยะ ราคา 2338 บาท
• デコレ−ション・グラフィックス－装飾で魅力的にみせるデザイン (หนังสือรวมงาน Design โฆษณา)
  ราคาเล่มละ 3900 เยน คิดเรทเงินไทย 0.29 บาท จะเป็นเงิน 1131 บาท
  ถ้าซื้อที่เอเชียบุคส์ ราคา 1550 บาท
  ถ้าซื้อที่คิโนะคุนิยะ ราคา 1655 บาท
  รวมซื้อที่ญี่ปุ่น : 3329.20 บาท
  รวมซื้อที่ไทย : 4078 บาท ต่างกันอยู่ประมาณ 748 บาทค่ะ
  คำแนะนำ : ถ้าเป็นหนังสือ Design ของ Piebooks หรือต่างประเทศเลย จันแนะนำให้ลองเช็คราคาเอเชียบุคส์ก่อนค่ะ (ถ้าอ่านชื่อหนังสือไม่ออก กรอกหมายเลข isbn ที่อยู่บนปกหลังเข้าไปในเว็บได้เลยนะ) เพราะจันว่าถ้าหาซื้อที่ไทยได้ แล้วราคาไม่ต่างกันมาก ก็ไม่ต้องแบกกลับให้เสียน้ำหนักกระเป๋า แต่ถ้าไม่มี ซื้อจากที่นี่ไปเลยค่ะ แล้วก็ที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยมีการลดราคาหนังสือตามข้อตกลงราคาหนังสือมาตรฐาน ดังนั้นซื้อที่ไหนก็เหมือนกันค่ะ (แต่ถ้าซื้อตามร้านหนังสือมือสองก็อีกเรื่องนะ)

แม้ว่าร้านจะมีคอนเซปต์ร้านหนังสือสำหรับผู้ใหญ่ แต่ว่าร้านก็มีโซนหนังสือเด็กด้วยค่ะ มีการจัดนิทรรศการต่างๆ และมีหนังสือเด็กจากทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ผู้ใหญ่และเด็กมาใช้บริการร่วมกันได้

ชั้นเดียวกับหนังสือเด็กจะเป็นร้านเช่าหนังค่ะ ที่เมืองไทยคือไม่มีแล้ว แต่ที่ญี่ปุ่นยังมีอยู่ค่ะ นอกจากการให้บริการเช่าหนังแล้ว ที่นี่ยังขายพื้นที่สำหรับโฆษณาหนังใหม่ด้วย เช่น มีที่ให้วางใบปลิวหนังใหม่ มีเปิด Trailer หนังใหม่บนจอทีวี เรียกได้ว่านอกจากจะได้เงินจากค่าเช่าหนังแล้ว ยังขายพื้นที่โฆษณาได้ด้วย ดีมากเลยค่ะ จันก็เดินไปทั่ว ไปเก็บใบปลิวหนังสนุกเลย การแยกหนังของเขา มีการจัดรวมหนังตามผู้กำกับด้วยค่ะ ไปเดินดูแล้วก็เอ้อ ดีจัง สนุกมาก สำหรับคอหนังญี่ปุ่นควรมาเดินค่ะ แล้วจะได้รู้จักหนังมากขึ้น

ที่นี่เป็นที่ที่สามารถมาใช้เวลาหย่อนใจได้ทั้งวัน ไม่ต้องไปไหนก็ยังได้ ถ้าหิวก็มีทั้ง Family Mart Starbucks และ Lounge ให้กินให้ดื่มระหว่างอ่านหนังสือสบายๆ ไปได้เรื่อยๆ เลยค่ะ

แต่ยังไงก็ดูป้ายต่างๆ ที่เขาติดไว้ด้วย ว่ากินตรงไหนได้ ไม่ได้ยังไง เพราะไม่งั้นอาจจะเป็นการรบกวนคนอื่นๆ ได้ค่ะ โซนของสตาร์บัคส์ก็ห้ามเอาของกินหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่ใช่ร้านเขามากินนะ ระวังกันด้วยค่า

ใครชอบหนังสือก็อยากให้ลองมาที่นี่ดูค่ะ เพลิดเพลินเจริญใจมากๆ พนักงานก็บริการดี ถ้าลืมทำ Tax Refund ข้ามตึก คุณพนักงานก็ช่วยเหลือเต็มที่ ถ้าทำงานด้านศิลปะและดีไซน์ จันเชื่อว่าแค่ยืนอ่านก็ได้ไอเดียกลับไปเป็นกระบุงเลยค่ะ

อุปกรณ์ DIY ที่ซื้อได้ด้วยเหรียญเดียว !

ระหว่างที่แวะมาร้าน Tokyu Hands ที่สาขาชิบุยะ (ที่แนะนำไปครั้งก่อน) ร้าน Can Do เป็นร้าน 100 เยนที่เปิดอยู่เยื้องๆ กันค่ะ ระหว่างที่รอเพื่อนไปภารกิจติ่งดาราอยู่นั้นก็เลยเดินวนไปวนมาในร้านอย่างสนุกสนาน เพราะที่นี่ จันได้เจออุปกรณ์ที่นัก DIY ต้องชอบเยอะแยะมากมาย ในราคาเพียง 100 เยนเท่านั้น !

Location ตามรอย

ร้าน Can*Do เปิด 10 โมงเช้า – สี่ทุ่มทุกวันค่ะ

100 เยน ถูกขนาดไหนในญี่ปุ่น

ปกติ ร้าน 100 เยนที่ญี่ปุ่นมักจะใช้คำโปรโมทว่า “One Coin Shop” หรือสินค้าราคาเหรียญเดียว
100 เยน สำหรับที่ญี่ปุ่นคือถูกมาก เงินจำนวนนี้ ราคาประมาณน้ำกระป๋อง 1 กระป๋อง (โค้กกระป๋อง 250 ml. ประมาณ 120 เยน) หรือน้ำดื่ม 520 ml. 1 ขวดค่ะ (ยี่ห้อ I-Lohas 520 ml. ตามตู้กดน้ำอยู่ที่ 100-130 เยน) ส่วนที่ไทยเอาเข้ามา ราคาปรับขึ้น จึงอยู่ในช่วงที่ไม่ได้ถูก แต่ก็จะเน้นสินค้าตอบโจทย์ในราคาเอื้อมถึง จึงขายได้ขายดีค่ะ

ร้าน 100 เยนในญี่ปุ่น

ร้าน 100 เยน ที่จันเห็นออกสื่อบ่อยๆ ก็จะมี Daiso, Can Do, Seria และ Watts ค่ะ ความจริงแล้ว แม้จะเป็นร้านที่ขายสินค้าราคา 100 เยนเหมือนๆ กัน แต่ว่าแต่ละร้านก็จะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไป แบบที่คนที่เดินเข้าไปก็พอจะรู้สึกได้ อย่าง Daiso เนี่ย จะเน้นสินค้าแก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ของแม่บ้านเป็นหลัก Seria ก็จะเน้นไปที่สินค้าที่ออกแบบดูดี ดูผู้หญิงหน่อย หวานๆ หรือของไม้ๆ แต่งบ้านได้ Watts ก็จะเน้นไปทางของที่ Design แบบ minimal หน่อยๆ แต่ก็ไม่หวานจนเกินไป ส่วน Can Do ตอนที่ไปเหยียบครั้งแรกคือโดนดูดไปกับอุปกรณ์ DIY ค่ะ เรียกได้ว่าสมชื่อ Can Do (ทำได้) จริงๆ

ที่ไทยนำเข้ามาแล้วทั้งหมด 3 ร้านคือ Daiso, Can Do และ Watts ช่วงแรกๆ ที่ไดโซะเข้ามา จะชอบมีสินค้าจากร้านอื่นๆ มาปนๆ กัน บางทีไปเดินดูเป็นของร้าน Seria มาขายใน Daiso ก็มี แต่ตอนนี้ดูจะแยกกันเด็ดขาดชัดเจนแล้วค่ะ

Can*Do เอาใจคนรัก Sweet Deco ด้วยอุปกรณ์มากมาย

ใครที่ชอบทำงานของจิ๋ว อุปกรณ์ Sweet Deco และงาน UV Resin ต้องรีบมาเลยค่ะ ขวดโหลเล็กๆ UV Resin มีให้เลือกตั้งแต่แบบนิ่ม (ฉลากสีชมพู) แบบแข็งมีกากเพชร (ฉลากสีส้ม) แบบแข็ง (ฉลากน้ำตาลเข้ม) ซอสราดสำหรับ Sweet Deco หรือขนมจิ๋ว สีน้ำผึ้งและเมเปิลไซรัป

วิปครีมสีต่างๆ แบบหลอดเล็กก็มีให้ซื้อด้วยนะ จะแต่งเป็นครีมขาวนม หรือครีมสตรอเบอรี่ก็มี

ขนมจิ๋วสำเร็จรูปอย่างช็อกโกแลต เจลลี่บีนส์ ก็มี แถมภาชนะเล็กๆ อย่างถ้วยไอศกรีมซันเดย์ ขวดโหลจุกไม้กอร์กก็มีให้เลือกด้วยพอสมควรเลย น่ารักมากๆ 

Strap และกระพรวนแขวนก็มีขาย อยากทำอะไรซื้อไปให้ครบ จบร้านเดียวเลย

งานกระดาษและของตกแต่ง

กระดาษห่อของขวัญเอย โบว์ริบบิ้น ถุงกระดาษ สติ๊กเกอร์ และ Masking Tape ราคาย่อมเยาก็หาได้ที่นี่ค่ะ ที่นี่จันซื้อกระดาษห่อของขวัญลายหนังสือพิมพ์เก่ากลับไป จันเอาไว้ใช้เป็นพรอพถ่ายรูปค่ะ

Can Do มี Masking Tape ขายเยอะมากค่ะ จะไซส์เล็ก ไซส์ใหญ่ก็มี แถมขายแท่นไว้สำหรับเก็บเทปและตัว Tape Cutter ในราคา 100 เยนด้วย มีตัวนึงเคยออกทีวีว่าเป็นสินค้าที่ดีที่สุดปี 2017 ด้วยนะ ลองเข้าไปดูในบล็อคที่จันเคยเขียนได้ค่ะ

พวกงานกระดาษมีหลายชิ้นที่เหมือนเห็นขายในร้าน Watts ที่ประเทศไทยเลยค่ะ

สินค้าคาแรคเตอร์เยอะแบบน่าแปลกใจ

สินค้า Character ที่นี่เยอะค่ะ ปกติเราจะเห็นแค่ของ Sanrio ใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งคิตตี้ยิ่งเยอะใหญ่ มีของหลายๆ ค่ายเลยล่ะ

สินค้าของ RODY ก็มีเป็นโซนเล็กๆ

ตัว Rody เป็นตัวละครที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี ตัวกลมๆ ของน้องมาจากแนวความคิดว่า “ลูกบอลกลมๆ ละลายเข้าด้วยกัน” เลยได้รับความสนใจจากเด็กๆ แล้วเขาก็นำ Rody มาทำเป็นม้าสำหรับให้เด็กๆ ขี่เป็นของเล่นที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เด็กๆ ที่ญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ที่ได้รับความนิยมค่า

สินค้าน้องแมว น้องเม่นน่ารักๆ สินค้าคิตตี้ Rilakkuma Kumamon ก็มีแอบๆ อยู่ตามชั้นต่างๆ ค่ะ เดินช็อปก็นึกว่าหลุดมาในกิ๊ฟช็อปเบาๆ ปล. แต่ที่นี่ My Melody เยอะกว่าคิตตี้แฮะ แปลกใจนิดนึง ดังนั้นไม่ว่าจะกำลังหาของฝาก อุปกรณ์ DIY ราคาถูกๆ หรือของใช้แปลกๆ ในราคาสบายกระเป๋า ก็แวะไปที่นี่ได้เลย !

แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ !

*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเอง
ใครจะก๊อปไปไว้ไหน เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ