หลังจากออกมาจากคิคุจิ เคโคขุแล้ว เราก็ไปหม่ำข้าวกัน
อาหารวันนี้เป็นอาหารรวมของย่างเป็นเซ็ทเหมือนเดิมค่ะ ไม่เคยกินอาหารเพื่อสุขภาพขนาดนี้มาก่อน ส่วนมากเป็นผักดอง ผักต้ม ปลาย่างค่ะ เม็ดบัวย่างอร่อยอ่ะ! แต่มีอยู่สามเม็ด เลยไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่เลย T^T ร้านนี้จะนึ่งกับข้าวต่างๆ ในซึ้ง ในร้านเลยมีซึ้งอยู่เต็มไปหมดเลยล่ะ กองเป็นภูเขา ตั้งสูงมากๆ ค่ะ
จุดที่มาทานข้าวไม่รู้เรียกว่าอะไร กึ่งๆ จุดพักรถมั้งคะ มีห้องน้ำ ร้านอาหาร และ ร้านขายของฝากกับผลไม้ค่ะ
วันนี้ต้องรีบกินเพื่อไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ ข้ามสู่ท่าเรือทาบิระ นางาซากิ (Nagasaki) ค่ะ ไปยืนตากลมอยู่ดาดฟ้า ระหว่างเรือแล่นไม่มีวิวอะไรให้ดูมากมายค่ะ แต่เรือลำนี้มีนกบินตามตลอด ให้อาหารนกได้ค่ะ เด็กๆ ท่าทางสนุกกันน่าดูเลยล่ะ
นางาซากิ (Nagasaki) นั้น เป็นเมืองท่าของเกาะคิวชูค่ะ เมืองนี้ถือเป็นเมืองท่าเมืองหนึ่งที่อยู่ใกล้กับแผ่นดินเอเชียมากที่สุด จึงมีบทบาทสำคัญเรื่องความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศมาหลายศตวรรษ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณู “Fat Man” ใส่จักรวรรดิญี่ปุ่น ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 80,000 คน ซึ่งมีทั้งผู้เสียชีวิตทันทีและผู้ที่เสียชีวิตจากกัมมันตภาพรังสีในเวลาต่อมา หลังจากนั้นญี่ปุ่นจึงประกาศยอมแพ้ฝ่ายสัมพันธมิตร และลงนามในประกาศยอมแพ้ เป็นอันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ
ปัจจุบันนี้เมืองนี้เป็นเมืองเงียบสงบ มีชีวิตชีวา และมีเสน่ห์ค่ะ วิวทิวทัศน์เป็นเนินเขาและหินกรวด นอกจากการมาศึกษาและระลึกถึงประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าแล้ว เมืองนี้ยังมีภาพประวัติศาสตร์การเป็นเมืองท่าแลกเปลี่ยนสินค้าอยู่ จะได้เห็นวัฒนธรรมหลากหลายปะปนกัน ทั้งโบสถ์ ศาลเจ้า วัด และอาหารการกินแบบตะวันออกพบตะวันตก ล้อมรอบด้วยภาพท่าเรือที่สวยงาม
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://visit-nagasaki.com/
เมื่อถึงนางาซากิแล้วก็ไปปราสาทชิมาบาระ (Shimabara Castle) ค่ะ ตามโปรแกรมเดิมจะต้องไปนั่งกระเช้าอุนเซน นิตะ โทเกะ (Unzen Nita Toge Ropeway) แต่เพราะสภาพอากาศวันนี้ไม่เป็นใจ จึงไม่เปิดให้บริการค่ะ T^T หลังจากถกเถียงกันอยู่นาน คุณไกด์ก็พามาที่ปราสาทชิมาบาระแทนโปรแกรมเดิมค่ะ
ท้องฟ้าสีเทา หดหู่จังเนาะ
ปราสาทชิมาบาระ หรือญี่ปุ่นเรียกชิมาบาระโจ เป็นปราสาทสีขาว สร้างขึ้นโดย มัตสึคุระ ชิเงะมาสะ (Matsukura Shigemasa) ในสมัยยุคเอโดะตอนต้น เพื่อเป็นที่พักอาศัยของผู้ครองเมืองสมัยนั้น ปราสาทนั้นสร้างขึ้นอย่างหรูหรา เมื่อเปรียบเทียบกับปราสาทในอาณาเขตที่สถานภาพคล้ายคลึงกัน การสร้างปราสาทแห่งนี้ ประชาชนต้องจ่ายภาษีอย่างหนัก รวมถึงประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์ถูกข่มเหง ทำให้เกิดการก่อกบฎชิมาบาระ ซึ่งเป็นการปฏิวัติของชาวนาครั้งสำคัญ มีชาวคริสเตียนที่ร่วมสงครามถึง 37,000 คนทีเดียว
พอมายุคเมจิ (ปีค.ศ. 1868-1912) ปราสาทถูกทำลาย แล้วกลับมาสร้างใหม่ด้วยคอนกรีตในปี ค.ศ. 1964 อาคาร 5 ชั้นนั้น ทำเป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมสิ่งประดิษฐ์ของชาวคริสเตียนที่จุดพบจากซากปราสาท รวมถึงอาวุธและเสื้อเกราะต่างๆ (เหมือนที่ปราสาทคุมาโมโตะเลย) นักท่องเที่ยวลองใส่ชุดนินจาหรือเสื้อเกราะซามุไรได้ (พนักงานต้อนรับที่นี่ใส่ชุดโบราณกันหมดเลยค่ะ)
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.japan-guide.com/e/e4454.html (en)
ปราสาทที่นี่รอบๆ เป็นที่จอดรถกว้างขวางค่ะ มีสวนให้พักผ่อน ก็สงบดีนะ (มองเห็นวิวเมืองด้วย)
วันนี้ฟ้ายังไม่มืดก็กลับโรงแรมเสียแล้ว เพราะโรงแรมมีออนเซนก็เลยกลับกันไว
วันนี้พักที่ Unzen Yumoto Hotel ค่ะ เป็นโรงแรมเรียวกังที่น่าจะตั้งมาหลายปีแล้ว บริการดีมากค่ะ คุณไกด์พาไปดูแหล่งน้ำพุร้อนถึงที่ด้วยค่ะ
บริเวณที่โรงแรมต่างๆ สูบน้ำพุร้อนมาให้บริการ มีควันสีขาวเต็มไปหมดค่ะ กลิ่นกำมะถันตลบอบอวล แต่ดมมากไม่ดีนะคะ
ห้ามออกนอกรั้วที่กั้นไว้
ศาลเจ้าข้างๆ แหล่งน้ำพุร้อนค่ะ ข้างๆ โรงแรมมีร้านขายของอยู่หลายร้านเลยล่ะ
บริเวณรอบๆ โรงแรม แม้ยามเย็นก็ยังคึกคัก
เท่าที่เห็นร้านรอบๆ จะขายของประเภทขนมของฝากเป็นส่วนใหญ่ มีร้านด้านหน้าแหล่งบ่อน้ำพุร้อน จะมีขายของกระจุกกระจิก ของเล่นเด็ก และมีตู้หมุนไข่อยู่พอสมควรค่ะ
มีร้านอาหารอยู่ตรงข้ามโรงแรมด้วยนะคะ คุณลุงคนนี้้เป็นเจ้าของร้านล่ะ
รูปตอนเช้าวันรุ่งขึ้นมารวมด้วย แอบไปถ่ายรูปก่อนออกเดินทางค่ะ
★ รายการแนะนำโปรแกรมทีวีวันนี้ ★
Credit : Line Official ของละคร และ http://www.ntv.co.jp/okitegami
ละครเรื่อง Okitegami Kyoko no Bibouroku ฉายทางช่อง NTV เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวนักสืบขี้ลืมคนหนึ่ง ที่ความจำเพียงหนึ่งวันเท่านั้น เมื่อนอนหลับแล้ว ความจำจะหายไปทันที จึงต้องไขคดีต่างๆ ภายใน 1 วันและรับงานล่วงหน้าไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ได้เด่นที่การไขคดีค่ะ คดีต่างๆ จะไม่ลึกลับซับซ้อนเท่าไรนัก แต่เนื้อเรื่องจะพูดถึงความสัมพันธ์ และการทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดูแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นน่ารัก เรื่องราวความรักระหว่างพระเอกนางเอกน่ารักมากๆ ค่ะ แล้วก็กราฟิกการอธิบายสิ่งต่างๆ ในเรื่อง ใช้กราฟิกแปลกใหม่ คล้ายๆ Infographic ซึ่งทำให้เข้าใจง่ายมากๆ เลยล่ะค่ะ
Credit : http://www.facebook.com/AiolosFansub
ถ้าอยากดูกราฟิกที่บอก เลื่อนเวลาไปที่ 5.13 ค่ะ หรือดูตั้งแต่ต้นจนจบตอนก็สนุกค่ะ
Credit : http://www.nhk.or.jp/dodra/haretsu/
เรื่องนี้ชื่อเรื่องว่า Haretsu ฉายทางช่อง NHK ค่ะ เป็นเรื่องแนวหนักๆ เกี่ยวกับด้านมืดของวงการแพทย์ ตอนดูไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่คือจำได้ว่าเรื่องนี้มืดมาก 55 กลับมาอ่านเรื่องย่อทีหลังคือว่ามีคุณหมอคนหนึ่งที่เป็นศัลยแพทย์หัวใจที่เก่งมากๆ แต่เชื่อว่า คนจะเป็นหมอได้ต้องฆ่าคนมาแล้วสามคน เขาค้นพบวิธีที่จะทำให้หัวใจของคนแก่ กลับเป็นเหมือนหนุ่มสาวอีกครั้ง แต่เขาไม่รู้ว่ามันมีผลข้างเคียงคือหัวใจจะล้มเหลวเมื่อได้รับการกระตุ้นมากเกินไป ส่วนคนซ้ายเป็นข้าราชการที่เชื่อว่าคนแก่เป็นปัญหาของสังคม ที่ควรกำจัดเสียก่อนที่บ่อนทำลายประเทศ แล้วเขาก็เห็นว่าวิธีของศัลยแพทย์คนนี้มีผลข้างเคียงที่จะทำให้เป้าหมายที่จะกำจัดคนแก่บรรลุได้ ผู้เฒ่าทางขวาครั้งหนึ่งเคยเป็นนักแสดงมีชื่อ หัวใจของเขาไม่ค่อยดีนัก แต่อยากจะแสดงหนังเรื่องสุดท้ายก่อนตาย เขาจึงให้ศัลยแพทย์คนนี้รักษา อันที่จริง ศัลยแพทย์คนนี้เป็นลูกนอกไส้ของเขา ซึ่งไม่เคยสนใจใยดีเขากับแม่เลย เขาเกลียดเข้าไส้ แต่เขาไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องรักษา แต่เมื่อผลข้างเคียงเริ่มแสดงอาการให้เห็น ศัลยแพทย์จะตัดสินใจอย่างไร // ถ้าแปลผิดขออภัยล่วงหน้านะคะ
Credit : http://www.fujitv.co.jp/transitgirls/
Transit Girls ฉายทางช่องฟูจิทีวีค่ะ ฉายตอนดึก เรื่องล่อแหลมนิดหน่อย (ตามรูปแหละนะคะ) เป็นเรื่องราวของเด็กสาวสองคน พวกเธอจับพลัดจับผลูมาอาศัยอยู่ชายคาเดียวกัน เพราะพ่อแม่ของพวกเธอแต่งงานกัน แต่ด้วยความที่พวกเธอต่างกันสุดขั้ว ทั้งนิสัยและภาพลักษณ์ ช่วงแรกพวกเธอจึงไม่พอใจนัก แต่ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเป็นความรักระหว่างกันและกัน ธีมหลักจะพูดถึงประเด็นเรื่องรักร่วมเพศแบบเลสเบี้ยนค่ะ เป็นเรื่องแรกที่ใช้ประเด็นล่อแหลมนี้ ฉายในช่องทีวีหลัก อาจจะเพราะคนญี่ปุ่นเปิดเผยเรื่องรสนิยมทางเพศมากขึ้น ทำให้ละครช่วงปี 2015 นี้มีหลายเรื่องที่มีตัวละครรักร่วมเพศค่ะ อย่างเรื่อง Gisou no fufu (พระเอกก็เป็นเกย์) ใครสนใจลองเสิร์ชดูได้ค่า
พบกับวันสุดท้ายแบบรวบรัดในครั้งหน้านะคะ 😀
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า
*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
– แอดหนูจัน – บล็อกเกอร์ตัวกลม อารมณ์ดีที่ชอบหาอะไรทำสนุกๆ ภายในบ้าน รักการเขียน การอ่าน การวาดรูป และการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องเขียน อุปกรณ์งานฝีมือและอุปกรณ์ศิลปะ Craft it Myself • Draw my Life • Create my World