หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมจันถึงยกหัวข้อนี้ขึ้นมา ทั้งๆ ที่จันกำลังจะไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว เราจะมาซื้อของออนไลน์กันทำไมอีก จริงๆ ตัวจันเองก็ไม่ได้คิดล่วงหน้าหรอกค่ะ ว่าจะซื้อของออนไลน์ก่อนไปญี่ปุ่น แต่ตอนที่เช็คราคาของที่เราอยากได้ เห็นราคามือสองแล้วมันอดไม่ได้ หนังสือเหลือ 300 เยน ซีดีเหลือ 1 เยน ดีวีดีซีรีส์จาก 23000 เยน เหลือ 9900 เยน พอเห็นราคาแล้วตาลุกวาวเลยค่ะ ไม่ต้องไปลุ้นหาที่ญี่ปุ่นด้วย จันเลยหาข้อมูลและสั่งของกับเพื่อนค่ะ
นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้ของที่ตามหาตามต้องการ ในราคาที่ถูกแสนถูก และประหยัดเวลาได้แบบสุดๆ เลยล่ะค่ะ
Credit รูป : djcopeman Flickr User
ก่อนการสั่งของ จันแนะนำให้ีอีเมลไปถามโรงแรมที่เราจะพักก่อนว่า ถ้าจะให้พัสดุส่งไปที่โรงแรม จ่าหน้าถึงเรา ช่วยรับให้ได้ไหม เสียค่าบริการเท่าไหร่ อย่างโฮสเทลที่จันพักช่วงสามวันแรก จันก็อีเมลไปถามเขาเรื่องนี้ ได้คำตอบมาว่าเขามีบริการนี้ คิดค่าบริการวันละ 75 เยน ต่อ 1 พัสดุ ถ้าเราสั่งให้บอกเขาว่ามีกี่ชิ้นและคาดว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ เขาจะรับของไว้ แล้วเมื่อเรา Check in เขาค่อยคิดเงินกับเราอีกทีค่ะ แต่ถ้าทางโรงแรมไม่มีบริการหรือคิดค่าบริการแพงมาก เราเลี่ยงไปรับของที่ตามร้านสะดวกซื้อได้ค่ะ เดี๋ยวจันจะอธิบายให้ฟังต่อไปนะคะ
การจ่ายเงินค่าของนั้นจะต้องตัดผ่านบัตรเครดิต แต่ถ้าใครไม่มี ไม่อยากเป็นหนี้ จันแนะนำให้สมัครบริการ K-Web Shopping Card ของกสิกรไทยค่ะ ระบบนี้คือจะสร้างรหัสหน้าบัตรเครดิตกับรายละเอียดที่จำเป็นในการซื้อของออนไลน์ให้กับเรา เมื่อเราซื้อของ ธนาคารจะตัดเงินจากบัญชีออมทรัพย์ของเรา อัตราแลกเปลี่ยนก็รับได้ค่ะ แพงกว่า SuperRich ประมาณ 0.005 บาท จันลองคำนวณจากราคาที่เป็นเยนเทียบกับเงินบาทที่ตัดเงินไป วันนั้น SuperRich ขึ้นอัตราแลกเปลี่ยนที่ 0.3030 บาท/1 เยน ส่วนเรทที่กสิกรคิดคือ 0.3080 ค่ะ ก็แพงกว่ากันนิดหน่อย เทียบกับการซื้อของราคาเต็มในเรทที่ต่ำกว่า ก็นับว่าถูกกว่ากันเยอะค่ะ
* ควรซื้อก่อนเดินทางประมาณ 7 วันค่ะ เพราะใช้เวลาส่งของประมาณ 4-9 วัน
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย เว็บที่จันจะนำเสนอคือ amazon.co.jp ค่ะ จันชอบอเมซอนมากกว่า Rakuten และ Yahoo เพราะ amazon ดูปลอดภัยกว่า และหน้าเว็บใช้ง่ายดีค่ะ
เปลี่ยนภาษากันก่อนเลย (การเปลี่ยนภาษาใช้ได้เฉพาะเมนูต่างๆ ของเว็บอเมซอนเท่านั้น รายละเอียดหรือคอมเม้นท์ของสินค้าจะยังเป็นภาษาญี่ปุ่นอยู่ค่ะ)
สมัครสมาชิกก่อนใช้บริการ
(ตอนสมัครจันแนะนำให้กรอกชื่อภาษาอังกฤษจริงที่สะกดตรงกับพาสปอร์ตนะคะ เผื่อถ้ารับกับโรงแรมจะได้ยื่นพาสปอร์ตให้เขาดูค่ะ)
หาสิ่งของที่ต้องการ (จะหาตามหมวดหมู่หรือเสริชคีย์เวิร์ดเอาก็ได้ จันแนะนำให้หาเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ Google Translate ช่วยได้ค่ะ หรือถ้าเป็นชื่อดารา นักร้อง นักเขียน การ์ตูน ก็หาชื่อสะกดภาษาญี่ปุ่นได้ใน Google นะ)
เมื่อเราค้นหาแล้ว amazon จะบันทึกข้อมูลของสิ่งของที่เราดู พร้อมกับแนะนำสิ่งของคล้ายๆ กันด้วย ดังนั้นถ้าเจอของที่เราชอบสักอย่างแล้ว อาจจะนำไปสู่ของอีกหลายอย่าง แต่ก็อย่าลืมคิดถึงเรื่องเงินกันด้วยนะคะ อย่าช๊อปเพลิน
หาของที่อยากได้เจอแล้วก็มีหลายราคาให้งงเล่น อเมซอนจะขายของสามแบบด้วยกัน
- สินค้าที่อเมซอนขายเอง ส่งเอง ราคาอาจจะเป็นราคาเต็มหรือราคาลด แล้วแต่ทางเว็บ ข้อดีคือเชื่อถือได้ ตัดเงินเมื่อพร้อมส่ง ส่งฟรี และรับที่ร้านสะดวกซื้อได้ แต่ข้อเสียคืออาจจะต้องซื้อของเต็มราคา
- สินค้าแบบที่สองคือ ของมือใหม่แต่คนอื่นขายและจัดส่งเอง ราคามักจะถูกกว่า ถ้าของไม่ใหม่มากราคาจะถูกลง ข้อดีคือได้ของใหม่ราคาถูก ข้อเสียคือต้องสกรีนดีๆ จะได้ไม่ถูกโกง คุณภาพมั่นใจไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องเสียค่าส่ง (เท่าที่เห็นมีสองราคา คือ 250 เยน กับ 340 เยนต่อชิ้น ไม่มีค่า่ส่งเหมา) และของจะส่งเร็วส่งช้าต้องแล้วแต่ว่าเป็นเจ้าไหน ยกเว้นบางเจ้าที่อเมซอนส่งเอง ก็รับที่ร้านสะดวกซื้อได้ อ้อ อีกเรื่องคือการซื้อสินค้าจากเจ้าข้างนอกจะตัดเงินทันทีเมื่อสั่งของค่ะ
- แบบสุดท้ายคือของมือสองและของมีตำหนิ ส่วนมากถ้าไม่ใช่คนทั่วไปเอาของที่มีอยู่มาขายก็เป็นพวกร้านค้าที่เอาของมีตำหนิมากำจัด พวกซีดีซิงเกิลหรือหนังสือภาพดาราหรืออนิเมะจะเห็นขายในราคาถูกมาก อย่าง 1 เยน หรือ ไม่เกิน 100 เยนก็มีอยู่บ่อยๆ ของประเภทนี้อาจจะต้องดูหลายอย่างประกอบกัน จะซื้อสั่วๆ คงไม่เหมาะ เดี๋ยวไม่อย่างนั้นได้ขยะมาแทน มีค่าส่งด้วยค่ะ ไม่ใช่ส่งฟรี รับที่สะดวกซื้อไม่ได้ และ ตัดเงินทันทีเมื่อสั่งของค่ะ
*Order ที่จันสั่งมือสอง 5 รายการส่งไวกว่า amazon อีกค่ะ สั่งวันที่ 30 วันที่ 1 ไปส่งให้ละ เร็วมากๆ เลย แต่ก็ขอย้ำว่าไม่ใช่ทุกเจ้าเป็นแบบนี้ จะสั่งต้องรอบคอบอยู่ดีค่ะ ^^
ถ้าเราคลิกตรงของมือหนึ่งเจ้าอื่นกับมือสอง จะขึ้นมาแบบนี้ค่ะ Copy link ไปแปะให้ Google Translate แปล ถึงจะแปลงงๆ นิดหน่อย แต่ก็พอช่วยได้อยู่นะ
สินค้ามือหนึ่งที่ซื้อกับเจ้าอื่นๆ บางทีอเมซอนก็ส่งเองค่ะ ดูได้ตามเครื่องหมายและข้อความในรูป
ถ้าส่งโดยอเมซอนเอง มีให้เลือกวันที่ไปถึงด้วยค่ะ (แต่เสียค่าส่งนะคะ ประมาณ 315 เยน)
กดซื้อแล้วจะขึ้นแบบนี้ ถ้าอยากซื้ออย่างอื่นอีกก็ยังไม่ต้องกด proceed to checkout ให้ไปเลือกของอย่างอื่นก่อน จะค้างของไว้ใน Cart สักสองสามวันก็ได้ เผื่อตัดสินใจเอาเข้า เอาออก แต่ถ้าครบแล้ว มั่นใจแล้ว ก็กด Check out เลยค่ะ
ตอนเช็คเอาท์ต้องกรอก email+password อีกทีค่ะ
เลือกวิธีการส่งของ
อเมซอนบริการส่งของ 2 วิธีด้วยกัน
- ส่งตามที่อยู่ที่ระบุ (ทางซ้าย) ตรง prefecture อ่านไม่ออกเทียบกับ Wikipedia เอาค่ะ ถ้าเกิดเราจะให้ส่งเข้าโรงแรมก็กรอกตามภาพด้านบนค่ะ วิธีนี้ไม่มีอะไรมาก ว่ากันง่ายๆ ก็คือส่งไปรษณีย์ให้นั่นล่ะ วิธีนี้ใช้ได้กับสินค้าทั้งจากอเมซอนเองและของผู้ขายข้างนอก ระยะเวลากว่าของจะถึงมือประมาณ 4-7 วันขึ้นอยู่กับเจ้า แต่เวลาซื้อของจากเจ้าข้างนอก อเมซอนจะกะเวลาไว้ที่ประมาณ 9 วันนับจากวันสั่ง อาจเร็วหรือช้ากว่านั้นขึ้นอยู่กับเจ้า
- รับด้วยตัวเองที่ร้านสะดวกซื้อ มีสองร้านด้วยกันที่ร่วมบริการ คือ Lawson กับ FamilyMart ซึ่งหาได้ทั่วไปไม่ยาก ประหนึ่งเซเว่นบ้านเรา สินค้าที่รับที่ร้านสะดวกซื้อได้เท่าที่จันทราบจะมีพวกหนังสือกับซีดี (ที่ไม่ได้แน่ๆ คือโคปิคค่ะ เหมือนอเมซอนจะไม่ได้ขายเอง) แต่ไม่รู้ว่าเขารับส่งอะไรอีกบ้าง เห็นว่าดูตามน้ำหนัก ส่วนสูง และความเหมาะสม สินค้าที่รับเองได้จะต้องเป็นสินค้าที่อเมซอนส่งเองเท่านั้น และเป็นของที่ราคาไม่เกิน 300000 เยน
ถ้าเกิดอันไหนที่รับทางนี้ไม่่ได้ จะมีข้อความสีแดงเตือนตั้งแต่ต้นว่าชิ้นนี้ๆ ส่งไม่ได้นะ ก็ให้ delete แล้วเอาออกจาก cart ไปก่อน (มันจะเซฟไว้ให้เราก่อน จนกว่าเราจะลบส่วนที่เซฟไว้ออกไป) แล้วค่อยสั่งแบบส่งเข้าโรงแรมอีกทีค่ะ การรับของที่ร้านสะดวกซื้อจะต้องรับภายใน 10 วันหลังจากที่ของมาถึงร้านสะดวกซื้อ (เมื่อของถึงร้านจะมีอีเมลแจ้ง) ไม่อย่างนั้นออร์เดอร์จะถือว่า Cancel ค่ะ วันจะเริ่มนับตั้งแต่วันรุ่งขึ้นจากวันที่ของมาถึงค่ะ เช่น ถ้าของมาถึงร้านวันที่ 1 มกราคม เราเข้าไปเอาได้ตั้งแต่วันที่ 1 และสิ้นสุดเวลาวันที่ 11 มกราคม ตอน 23.59 น. ค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะรับของวิธีนี้ ต้องกะเวลาให้ดีนะคะ Estimate delivery date ที่จันเห็นจะมาถึงหลังจากสั่งภายใน 3-4 วันค่ะ
จันแนะนำให้เลือกรับที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ที่พักก่อน เพราะส่งฟรี ไม่มีค่ารับของ ถ้าอันไหนที่เขาส่งไม่ได้ ค่อยให้เขาส่งเข้าโรงแรมค่ะ
วิธีการหาร้านสะดวกซื้อ
ร้านสะดวกซื้อมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะตามย่านใหญ่ๆ คนเยอะๆ แต่ที่จันแนะนำคือให้หาที่ใกล้ที่พัก หรือ ใกล้สถานีรถไฟใกล้ที่พัก ถ้าย่านเงียบเหงา ร้านพวกนี้จะไม่ค่อยเยอะ แต่ตามสถานีรถไฟย่อมมีแน่นอน ดังนั้นเริ่มหาจากสถานีรถไฟก็สะดวกดีค่ะ
วิธีจ่ายเงิน
*ตรงนี้เป็นที่อยู่บนใบเสร็จเฉยๆ จันว่าไม่น่าจะมีผลอะไรกับการรับของนะคะ
เมื่อ Place your order แล้ว ระบบจะเช็คของให้เรา ถ้าโอเคพร้อมส่ง ค่อยตัดเงินในบัตรเครดิต แล้วเราจะได้รหัส Pick Up Code เข้าอีเมลค่ะ นำรหัสนั้นไปที่ร้านสะดวกซื้อ กรอกในคอมพิวเตอร์เพื่อรับคูปอง ดูวิธีกรอกได้ที่นี่ LAWSON , FamilyMart แล้วเอาไปแลกที่เคาท์เตอร์ภายในครึ่งชั่วโมง อเมซอนจะแพคของใส่ในกล่องกระดาษให้เราหิ้วกลับที่พักค่ะ เท่าที่จันดูวิธีไม่น่าจะยุ่งยากนัก เพราะไม่ต้องใช้พาสปอร์ตหรืออะไร แค่มีรหัสรับก็พอแล้ว
ส่งแล้วเป็นยังไง
ถ้าสั่งมือสองเจ้าข้างนอก เมื่อเขาส่งแล้วสถานะสินค้าจะขึ้นคำว่า Shipped ในหน้า Your Order ค่ะ
ส่วนแบบรับที่ร้านสะดวกซื้อ ของจะส่งทันทีเมื่อพร้อม (ตอนแรกนึกว่าจะส่งรวมกันเสียอีก = =”)
เมื่อของส่งแล้วเราจะได้รับอีเมลรหัสรับของทางอีเมล เมื่อเราไปถึงร้านก็นำรหัสนี้ไปกรอกกับตู้ เพื่อเอาบัตร แล้วนำไปยื่นที่เคาท์เตอร์ค่ะ (ขั้นตอนอย่างละเอียดดูได้ที่ LAWSON, FamilyMart)
***หมายเหตุ : จากประสบการณ์ที่สั่งร้านสะดวกซื้อ ถ้าของส่งไม่พร้อมกัน จะแยกพัสดุกันค่ะ แต่รหัสรับของจะได้แค่รหัสเดียวเท่านั้นเอง ดังนั้นให้เราบอกพนักงานว่าของมีกี่ชิ้น เขาจะคีย์ข้อมูลให้ แล้ววิ่งไปหาหลังร้านค่ะ
Comment หลังจากได้รับของที่ซื้อมา : ของที่จันสั่งมีหนังสือ โคปิค และซีดีค่ะ หนังสือจันซื้อมือสองโดยส่วนใหญ่เลือกที่ราคาถูกมากๆ (จันซื้อหนังสือ 1 เยนมาด้วยจริงๆ นะคะ) หนังสือ 1 เยน สภาพดีมากค่ะ หน้าปกอาจดูเก่าแต่ข้างในใหม่มาก ไม่ยับ ไม่ขาด หรือเล่มที่เป็นมือสองครึ่งราคาก็เหมือนใหม่อ่ะค่ะ เรียกว่าได้หนังสือใหม่ราคาถูกก็ว่าได้ ส่วนโคปิคตามคุณภาพค่ะ เพราะจันซื้อของใหม่ แต่ถูกกว่าราคาจริงประมาณ 1000 เยน แพคมาอย่างดี กล่องพลาสติกบางๆ ไม่มีรอยร้าวเลย โคปิคจันไม่เจอเลยค่ะ จึงรู้สึกโชคดีที่สั่งไป หายากอยู่เหมือนกัน ถ้าร้านเครื่องเขียนไม่ใหญ่จริงๆ ไม่มีค่ะ (และร้านอย่างนั้นก็หาไม่ง่ายนักด้วยสินะ T^T)
ใครที่มีเป้าหมายอยู่ในใจว่าจะซื้อของ ถ้าเป็นของหายาก ของ Limited Edition หนังสือ นิตยสารเก่า Figure และรวมถึงของที่ไม่ค่อยลดราคา (เช่น โคปิค เป็นต้น T^T ) ลองใช้วิธีดูนะคะ 😀 ครั้งหน้าจะเล่าเรื่องไปเที่ยวจริงๆ เสียที ติดตามกันด้วยนะคะ
*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
– แอดหนูจัน – บล็อกเกอร์ตัวกลม อารมณ์ดีที่ชอบหาอะไรทำสนุกๆ ภายในบ้าน รักการเขียน การอ่าน การวาดรูป และการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องเขียน อุปกรณ์งานฝีมือและอุปกรณ์ศิลปะ Craft it Myself • Draw my Life • Create my World