หาทางเที่ยว
หาทางเที่ยวนี่ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจาก ตั๋วเครื่องบินกับที่พักนั่นเองค่ะ การแพลนแค่สองหรือสามเดือนล่วงหน้าก่อนเดินทางนั้นเป็นปัญหาใหญ่ในการหาทางเที่ยวมากจริงๆ โปรโมชั่นต่างๆ ส่วนมากจะประกาศตั้งแต่ปลายปี และโดยมากคนก็จองกันไปหมดแล้ว อีกทั้งช่วงที่เราเลือกก็เป็นช่วงที่คนไทยหยุดเยอะ และฤดูกาลยอดนิยมเสียด้วย เราสองคนแทบจะพูดได้ว่าต้องพลิกอินเตอร์เน็ทหาทางไปญี่ปุ่นในราคาไม่แพงกันเลยทีเดียว
เราจึงได้ทางเลือกในการเดินทางมาดังนี้ค่ะ
Hot Line : 086-312-0683, 086-317-4679, 086-378-3839, 086-344-9286
Email : siamtravelmart@siamtravelmart.com, siamtravelmart@yahoo.com
Tel. 02 635 3655 (Tour), 02 238 2101 (Ticket)
Tel. 02-264-6899 (09.30-18.00 น.)
(รับจองแพคเกจทัวร์ ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม)
Tel. 026649415-3
เนื่องจากเพื่อนจันปิดเทอมเลยว่าง (มนุษย์เงินเดือนจะโทรในเวลางานก็น่าเกลียดนี่เนอะ) จันให้เพื่อนไล่โทรไปตามเอเจนซี่เหล่านี้ทั้งหมดค่ะ เราได้แพคเกจทัวร์และตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักในราคาไม่เกิน 35000 บาท ประมาณ 5-8 วันมาประมาณ 15 Choice แต่พอจำนวนวันไม่เท่ากัน การจะเปรียบเทียบราคาก็ค่อนข้างลำบาก จันเลยเอา ค่าใช้จ่าย (ตั๋วเครื่องบินไปกลับ+ค่าที่พักตลอดทริป+ภาษีสนามบินและค่าน้ำมัน**) มาหารด้วยจำนวนวันที่เที่ยวในญี่ปุ่น เพื่อหาค่าเฉลี่ยต่อวันออกมาค่ะ จะได้เปรียบเทียบกันได้ว่า จริงๆ แล้วถ้าคิดเป็นวันแล้ว Choice ไหนราคาถูกแพงกว่ากัน
** ราคาของทัวร์และตั๋วเครื่องบิน บางที่รวมมาให้แล้ว บางที่ยังไม่ได้รวม ภาษีนี้ราคาไม่เท่ากันในแต่ละวัน แต่จะอยู่ที่ประมาณ 7500 – 11000 บาท ดังนั้นควรถามให้เคลียร์ตั้งแต่ต้นค่ะ
ลองดูตัวอย่างตารางเปรียบเทียบราคานะคะ
หลังจากชั่งใจก็ตัดสินใจเลือกชอยส์ที่คิดว่าคุ้มที่สุดก็คือ Choice 5 ตามรูป จากเอเจนซี่ JTB ค่ะ ราคาตั๋ว 22800 บาท ไฟล์ทตรง แต่หาที่พักเอาเอง ถ้าหาที่พักในราคาคืนละ 600-800 บาท ราคาก็ไม่บานปลาย
แต่โชคชะตาเล่นตลก พอเราสองคนตัดสินใจเรียบร้อย โทรไปวันรุ่งขึ้น ทางเอเจนซี่บอกราคาขึ้นแล้ว ! ราคาขึ้นอีก 3000 บาท
งานนี้เลยต้องเริ่มตรวจสอบราคาจากเอเจนซี่ที่น่าสนใจกันใหม่ค่ะ สุดท้ายไปลงเอยที่ แพคเกจตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักของ H.I.S ซึ่งเพิ่งจะออกมาในวันนั้น มีตั๋วเครื่องบินสายการบิน JAL (รวมภาษีสุดโหด 10450 บาทแล้ว) พร้อมที่พัก Shinjuku New City Hotel 3 คืน ทั้งหมดนี้สนนราคา 27150 บาท พอได้ยินข้อเสนอแล้วจองกันทันทีในวันนั้น (เข็ดหลาบจากคราวก่อน) โอนเงินหลังจากนั้นสองสามวันค่ะ
หลังจากมีทางไปแล้ว เหลือต้องหาโรงแรมในโตเกียวอีก 3 คืน เพราะว่าถ้าอยู่ที่โรงแรมเดิมต่อ จะต้องเสียตกคืนละ 1900 บาทต่อคนค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) เราสองคนเลยหาที่พักจาก agoda ค่ะ เพราะคิดว่าน่าเชื่อถือ ราคาเหมาะสม และตัดบัตรเครดิตได้สะดวก พอกรอกจุดหมายและวันคืนที่เราจะ check in แล้ว จันแนะนำให้ใช้ filter เพื่อเลือกระดับราคาที่เราต้องการค่ะ ลองดูรูปข้างล่างนี้ประกอบนะคะ
Warning : 1. ราคา Agoda.com ที่เราเห็นนั้นยังไม่ได้รวมภาษีค่ะ
2. เวลาจอง agoda ควรดูรายละเอียดลักษณะของห้องให้ดีค่ะ (อย่าเห็นจำนวนคนลวงตา เพราะจำนวนคนไม่ได้หมายถึงจำนวนคนต่อ 1 ห้องค่ะ) และ Only … rooms left at this price ! ไม่ได้หมายความว่าเหลือห้องแบบนี้อยู่กี่ห้องนะคะ แต่หมายถึงจำนวนครั้งที่จองได้ เช่น พักสูงสุดได้ 2 คน Only 2 rooms left at this price ! หมายความว่า เหลือสำหรับจองได้ 2 คู่ คือ 4 คน หรืออีกหนึ่งตัวอย่าง พักสูงสุดได้ 1 คน เหลือ 4 rooms คือจองได้อีก 4 คน
3. ถ้ามีเพื่อนหรือคนรู้จักทำงานที่ agoda ประเทศไทยแล้วพอจะคุยกันได้ ลองขอให้เขาใช้สิทธิ์พนักงาน refund เงินได้ค่ะ อาจจะได้ 5-10% ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เราจอง วิธีการขอ Refund นั้นเพียงแค่ให้ Booking ID ไป แล้วเงิน Refund จะคืนในบัตรเครดิตที่เราจ่ายเงินจองที่พักค่ะ เมื่อเพื่อนยื่นเรื่องแล้ว เราจะได้รับอีเมลจากทาง agoda ส่วนเงิน Refund จะได้ไม่เกิน 30 วันค่ะ แล้วแต่ธนาคาร จำนวนอาจไม่มาก แต่ก็ดีกว่าจ่ายเต็มเนาะ
4. ถ้าหากใช้บัตรเครดิตที่ไม่ใช่ของตัวเอง (เช่นของพ่อแม่ หรือของญาติซึ่งไม่ได้เดินทางกับเราด้วย) ให้กรอกว่าจองให้คนอื่นนะคะ ไม่อย่างนั้นเขาจะจองในนามของเจ้าของบัตรเครดิตแล้วอาจเกิดปัญหาเมื่อถึงเวลาเข้าพักจริง
5. เมื่อได้อีเมลคอนเฟิร์มการจองจาก agoda แล้ว อย่าลืมอีเมลไปคอนเฟิร์มกับโรงแรมโดยแนบเอกสารไปทางอีเมลนะคะ เราควรอีเมลไปคอนเฟิร์มว่าเราจองห้องนั้น ห้องนี้ ช่วงนี้ เราชื่ออะไร และอาจถามคำถามที่เราสงสัยได้ อย่าง Hostel ที่จันจองกับ agoda อยู่ที่ Ueno ชื่อ Aizuya Inn ค่ะ หลังจากอีเมลไปคอนเฟิร์มเกี่ยวกับการจองเรียบร้อย ก็สอบถามเกี่ยวกับการเดินทางจากสนามบิน เงื่อนไขการฝากกระเป๋าก่อน Check In และลักษณะห้องพัก จันได้คำตอบที่ชัดเจนจากทางทีมงาน (พนักงานที่นี่พูดอังกฤษได้ค่ะ) ก็เลยรู้สึกคิดไม่ผิดที่อีเมลไป
ทำเลที่พัก
แง่การคมนาคม
- Ueno ถ้าอยู่ย่านนี้จะไปกลับสนามบินนาริตะได้ง่ายค่ะ เพราะใช้ Keisei Express ตรงไปสนามบินได้เลย ไม่ต้องต่อ
- Shinjuku, Shibuya, Ikebukuro ที่นี่เป็นศูนย์รวมการคมนาคม มีสายรถไฟ JR ใต้ดินหลายสายผ่าน (ที่ Shinjuku มีท่ารถบัสไปต่างจังหวัดด้วยนะ)
แง่ราคา : Asakusa, Ikebukuro, Ueno ราคาจะย่อมเยาค่ะ แต่ถ้าย่านชิบุยะราคาจะสูงค่ะ
แง่ความพลุกพล่าน : Ikebukuro, Shinjuku, Shibuya จะคนเยอะ วุ่นวาย ขณะที่ Asakusa, Ueno ตอนเย็นจะค่อนข้างเงียบ(เหงา) ร้านรวงปิดไว
อย่าลืมดูว่าที่พักห่างจากสถานีรถไฟสักเท่าไหร่ เดินไหวไหม ถ้าใกล้สถานีรถไฟสักหน่อย แม้จะแพงกว่ากันสักนิด ก็ประหยัดเวลาและพลังงาน (ขา) ได้มากทีเดียวนะคะ และมีรีวิวโรงแรมต่างๆ ในญี่ปุ่นมาฝากกันด้วยค่ะ คลิกๆ มีโรงแรมและโฮสเทลมากมายเลย
ครั้งหน้าจันจะมาต่อเรื่องการวางแผนเที่ยวค่ะ
*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า

– แอดหนูจัน – บล็อกเกอร์ตัวกลม อารมณ์ดีที่ชอบหาอะไรทำสนุกๆ ภายในบ้าน รักการเขียน การอ่าน การวาดรูป และการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องเขียน อุปกรณ์งานฝีมือและอุปกรณ์ศิลปะ Craft it Myself • Draw my Life • Create my World