[Scarf] ตอนที่ 2 : ยามเมื่อไฟลนก้นและเรื่องสีสันบนผืนผ้า

หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์นิดหน่อยที่ทำให้ต้องเร่งงาน คือ ทางมูลนิธิ Soidog จะจัดอีเว้นท์แล้วต้องการนำผ้าพันคอของเราไปขาย โดยมีเฉพาะโลโก้ของ soidog เท่านั้น คิดระยะเวลาต่างๆ แล้ว เรามีเวลาก่อนวันงานประมาณ 5 วัน อาร์ทเวิร์คยังไม่เสร็จดี แต่ถ้าจะให้ทันงาน ต้องส่งไฟล์ให้โรงพิมพ์ก่อนวันรุ่งขึ้น เอาล่ะสิ !

จันรีบจัดการทำขั้นสุดท้ายคือการเติมน้องหมาไปเพิ่ม (ระหว่างนั้นจันฝึกวาดหมาไปด้วยค่ะ) เพราะหมาของจัน มีอยู่แบบเดียวคือหน้าเหมือนจัน  ฮ่าๆ เลยต้องฝึกวาดเพิ่มเติม ยากมากเลย แต่ละพันธุ์ ลงบนแต่ละจุด ในผ้าพันคอค่ะ เพิ่มความถี่ให้กับตารางตรงกลาง และลงสีให้เสร็จ ทันเวลาส่งไฟล์ให้ทางโรงงานเพื่อพิมพ์ลอทแรกอย่างฉิวเฉียดค่ะ

โรงพิมพ์ที่พิมพ์ผ้าพันคอให้ Soidog เป็นคนละโรงพิมพ์กับที่พิมพ์ผ้าพันคอที่ Preorder โรงพิมพ์นี้ใช้วิธีการพิมพ์แบบ transfer คือการพิมพ์ artwork ลงกระดาษพิเศษ จากนั้นนำกระดาษนั้นทาบกับผ้าแล้วนาบด้วยความร้อน สีืจะติดเนืื้อผ้าออกมาค่ะ (คล้ายๆ กับวิธีการใช้กระดาษ print สกรีนเสื้อเลยเนอะ)

วิธีนี้หากปรับสีที่ลงกระดาษได้พอใจแล้ว สีจะไม่เปลี่ยนเมื่อพิมพ์ลงผ้า (โรงพิมพ์เขาว่าอย่างนั้นน่ะนะ) นี่เป็นเทสต์สีที่ออกมาค่ะ

 

ของจริงสีเหลืองแปร๋นกว่าที่คิดไว้มาก ทำเอาคนออกแบบและเจ้าของโปรเจ็คต์เหี่ยวไปตามๆ กัน

หลังจากได้พิมพ์ลอทของ Soi Dog ออกมาแล้ว ก็ปรับเปลี่ยนลายอีก เพราะต้องเอาชื่อมูลนิธิที่เข้าร่วมมาใส่ด้วย คิดกันอยู่นานมาก ว่าจะเอายังไงดี ชื่อก็เป็นภาษาไทยจะหา font เหมาะๆ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ สุดท้ายเอาเป็นพลุ ลอยกลางอากาศ 2 ลูกเล็กๆ หลบอยู่ขอบๆ ส่วนพลุลูกอื่นๆ จะเป็นชื่อพันธุ์มะหมายอดนิยม Font ตัวเขียนน่ารักๆ เลยออกมาเป็นลายที่ออกมาขายค่ะ สีเหลืองก็ลดสีลงให้เป็นเหลืองอ่อนๆ ถนอมสายตา เพิ่มอีก 1 สีคือสีน้ำเงินเข้ม Starry Night ซึ่งกลายเป็นสียอดนิยมไปอย่างน่าตกใจ

อ้อ ! เรือไส้กรอกที่มีโลโก้ Soi Dog อยู่เดิมก็ขนพลพรรคมะหมาหรรษามานั่งเพิ่ม

 

เมื่อลายแก้ไขจนพอใจทั้งสองฝ่ายแล้ว จัน print ทุกอย่างลงกระดาษเพื่อให้ใช้เทียบเวลาเทสต์ผ้า จันมาร์คไว้ทุกอย่าง เรื่องสี จุดที่ต้องเช็คอาร์ทเวิร์ค เผื่อเมื่อปรับแก้แล้วอาจคลาดเคลื่อน

 

ในลอทหลังเราเปลี่ยนโรงพิมพ์ที่ใหม่ เมื่อเจรจาเรื่องราคาได้แล้วค่ะ โรงพิมพ์นี้พิมพ์ผ้าพันคอให้กับต่างประเทศด้วย เป็นโรงพิมพ์ที่พี่เจ้าของโปรเจ็คต์เขาใช้บริการตามปกติ ผ้าที่ใช้เป็น enity silk satin/enity silk chiffon ซึ่งเป็นผ้าที่รวมความลื่นเงาสวยของ silk satin กับความนุ่ม พริ้ว สวยผ้าชีฟองเข้าด้วยกันค่ะ ผ้าชนิดนี้แม้ในอากาศบ้านเราก็ใช้ได้ แต่หากอากาศเย็นก็พอช่วยให้อุ่นขึ้นบ้าง จึงใช้ได้ในทุกสภาวะ

ตอนที่พี่เขาเข้าไปเทสต์สีสีเหลืองไม่มีปัญหาอะไร แต่สีน้ำเงินออกมาสว่างกว่าที่คิด เลยต้องปรับสีกันใหม่โดยอาศัยค่าสีในหนังสือของทางโรงพิมพ์ค่ะ

 

เทสต์สีครั้งที่สอง ออกมาตามรูปซ้ายค่ะ เข้มขึ้นแต่ออกเหลืองขึ้น ครั้งสุดท้ายเลยลดสีเหลืองลงเล็กน้อยก่อนส่งงานค่ะ

สรุปผลออกมาปรากฏว่าสีออกมาเป็นสีเขียวเลยค่ะ T^T
 
Credit นางแบบ : โบนัส (Facebook: Bonuzzy LilDiva)

คือออกมากลายเป็นว่าสีตรงกับหน้าจอมาก แทนที่จะออกมาเป็นน้ำเงินเข้มกลับกลายเป็นสีเขียวน้ำทะเลเข้มๆ จะว่ามันสวยก็สวยอยู่ค่ะ มีคนชอบอยู่ แต่มันไม่ตรงกับที่ให้ลูกค้าดู พี่เจ้าของร้านเลยต้องส่งบัตรลดราคาสินค้าเป็นการขอโทษลูกค้า ในลอทหน้าต้องทำสีใหม่กันอีกที แต่หมอนออกมาน่ารักมากๆ เลยค่ะ สีตรงเป๊ะเลย

หมอนเป็นผ้าดัชเชส ซึ่งหนากว่าผ้าที่ใช้ทำผ้าพันคอ ผ้าจะลื่นๆ เนื้อหนา พิมพ์ออกมาสีตรงหน้าจอสวยเลยค่ะ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-* Advertisement *-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ใครสนใจอยากสั่งซื้อผ้าพันคอ เคสมือถือ และหมอนอิงที่จันออกแบบ
เพื่องานการกุศลนำกำไรช่วยองค์กรช่วยเหลือน้องหมาน้องแมว
หรืออยากสอบถามรายละเอียด เข้าไปได้ที่ Sugareve.scarf ค่ะ

ครั้งหน้าจะเป็นเบื้องหลังลายน้องแมวสุดหวานกันบ้าง อย่าลืมติดตามกันนะคะ

*********************

ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า