เอาล่ะค่ะ ช่วงนี้ได้งานอย่างหนึ่งจากเว็บของตัวเอง (เพราะเจ้าของงานเขาบังเอิญเปิดมาเจอแล้วชอบผลงาน) นั่นก็คือการออกแบบผ้าพันคอนั่นเองค่ะ ^_____^ บางคนที่ติดตามจันทาง Facebook คงจะพอได้เห็นผลงานกันบ้างแล้ว แต่ว่าวันนี้อยากจะเอาประสบการณ์มาแชร์กันอย่างละเอียดค่ะ
(ใครสนใจสั่งซื้อผ้าพันคอการกุศลหรือดูรายละเอียด คลิกที่รูปได้เลยค่ะ)
บอกตามตรงว่าจันไม่ได้ใช้ผ้าพันคอเลยค่ะ ที่บ้านมีคุณแม่ที่ชอบใช้ แต่แม่ก็จะไม่ซื้อผ้าพันคอแพงๆ จันก็เลยไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการออกแบบ เนื้อผ้า หมึกพิมพ์ พี่เจ้าของร้าน Sugareve.scarf ก็คุยรายละเอียดเกี่ยวกับงานให้ฟัง ว่าโครงการนี้เป็นโครงการการกุศล เจ้าของร้าน Sugareve.scarf เป็นคนรักสัตว์มากๆ (คือ Facebook พี่เขาแทบไม่มีเรื่องตัวเองเลย นอกจากขอความช่วยเหลือหาบ้านให้น้องหมา น้องแมวเต็มไปหมด) พี่เขาเลยอยากจะออกผลิตภัณฑ์สัก collection หนึ่ง เพื่อนำรายได้หักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วไปบริจาคช่วยเหลือโครงการช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ พี่เขาก็เล่าให้ฟังว่าต้องทำอะไร ส่งไฟล์แบบไหน ออกแบบยังไง ขนาดเท่าไหร่ เอาตัวอย่างสวยๆ ที่น่าสนใจมาให้ดูเยอะมากๆ
แรกๆ จันก็ไม่ค่อยมั่นใจ แม้จะอยากช่วยแต่เพราะสไตล์การวาดรูปของจันเฉพาะกลุ่มมากๆ การลงสีในคอมพิวเตอร์อีกที่จันไม่ถนัดสักเท่าไหร่ ออกแบบลายหนึ่งก็ใหญ่เหลือเกิน ตั้งเมตรคูณเมตร (ปกติจันวาดรูปขนาดไม่ถึงครึ่งฟุต) แฟนๆ ก็ไม่ได้มีเยอะแยะพอจะการันตีว่าจะขายได้ จันลังเลใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนตกลงอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่าจะลองออกแบบให้ก่อน ถ้าชอบค่อยมาตกลงกัน
การออกแบบผ้าพันคอนั้นมีอยู่หลายแบบ คือออกแบบหันออกสี่ด้าน คนใช้ผ้าพันคอจะพลิกทางไหนก็ได้ หรือรูปหันไปทางเดียว เป็นแนวตั้ง แนวนอนไปเลย หรือจะออกแบบเฉพาะตรงมุมๆ จันเริ่มออกแบบจากลายน้องหมาก่อน คิดไปว่าถ้าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของโปรดของน้องหมาก็คงดี เกาะทำด้วยเนื้อ ปราสาทชามอาหาร ต้นไม้ที่ออกลูกเป็นกระดูก ลูกโป่งเนื้อไก่ อยากให้เป็นเมืองที่น้องหมาอยู่กันเองอย่างมีความสุข ภาพของน้องหมาในความรู้สึกจันคือ เหมือนเด็กผู้ชายค่ะ ร่าเริง สดใส สนุกสนาน นั่นคือคอนเซ็ปต์ของจันค่ะ ขีดๆ เขียนๆ ลงกระดาษ
ไม่รู้คิดอะไรอยู่ ทำไปทำมากลายเป็นธีมทะเลกับโจรสลัดเข้ามาร่วมด้วย (น้องหมาชอบว่ายน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฮึ) หลังจากนั้นลอกลายลงเส้นจริงอีกที เพราะเดี๋ยวต้องเอามาลงสีในคอมพิวเตอร์ต่ออีกต้องใช้ความแม่นยำมากๆ
ทีแรกกะว่าโอเค นี่คือได้สองด้านแล้ว เดี๋ยววาดอีก 1 มุมแล้วขยายให้เต็มก็เรียบร้อย แต่งานไม่ง่ายอย่างนั้นค่ะ เพราะเมื่อขยายจริงๆ จะออกมาใหญ่น่าเกลียด พี่เจ้าของร้านบอกว่านี่คือ 1 มุมเท่านั้น ต้องวาดอีกสามมุม หืดขึ้นคอเลยค่ะ
เมื่อวาดเสร็จสี่มุม ลอกลายลงเส้นจริงเรียบร้อย จันใช้โปรแกรม Illustrator (AI) แปลงลายเส้นที่สแกนเข้าไปเป็น vector เลยค่ะ เพราะจันไม่แม่นเรื่องการดัดเส้นวาดรูปในคอมพิวเตอร์เท่าไหร่นัก จึงใช้วิธีนี้ รวดเร็วและสวยงามกว่าจันวาดเองในคอมเป็นไหนๆ
โรงพิมพ์ผ้ารับไฟล์เป็น ai หรือ jpg ค่ะ โหมดสี CMYK ทางร้านไม่มีบริการปรับArtwork (เข้าใจว่าเขากลัว Artwork จะคลาดเคลื่อนค่ะ) เวลาจะปรับสี ปรับขนาด ก็ต้องทำเองหมดแล้วส่งไฟล์ใหม่ เวลาพิมพ์ผ้า สีจะแตกต่างตามชนิดของผ้า และเทียบกับกระดาษไม่ได้เลยค่ะ print ลงกระดาษอย่างหนึ่ง ลงผ้ากลายเป็นอีกสีหนึ่ง ดังนั้นการลงสีในคอมซึ่งเปลี่ยนสีได้เองตามใจชอบจีงสะดวกที่สุดสำหรับการพิมพ์ผ้าค่ะ
แต่การใช้โปรแกรมทำ vector อัตโนมัติก็มีปัญหาอีกที่ว่าเวลาทำแบบนี้ เส้นที่ตัดเส้นไว้จะลบออกไม่ได้ พอเห็นเส้นเข้มๆ แล้วมันดูแปลกๆ นะคะ ทำยังไงดี ปรึกษาพี่ที่ทำงาน ได้คำตอบมาว่า “ก็เปลี่ยนสีเส้นให้อ่อนลงก็ได้ จะได้ไม่หนักเกินไป” จากสีดำเลยใช้สีน้ำตาลให้ดูอ่อนมาหน่อย ดูดีขึ้นแฮะ จากนั้นค่อยๆ ลงสีไปทีละช่อง เหมือนวาดรูประบายสีอย่างนั้นล่ะค่ะ
เมื่อลงสีเสร็จ จันฝากพี่ที่ทำงาน print เวลาเห็นในหน้าจอเล็กๆ เราว่าดูพอดีแล้ว แต่พอ print ออกมาใหญ่ๆ กลับดูโล่งไป พี่เจ้าของร้านเป็นคนชอบรายละเอียดแน่นๆ หน่อย พอจันดูในหน้าจอคิดว่าสวยแล้ว พี่เขามักจะทักว่า พี่ว่ามันโล่งไปหน่อยนะคะ พอมา print ก็เป็นอย่างที่พี่เขาบอกจริงๆ คนมีประสบการณ์เนี่ยสุดยอดเลย
หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ขลุกขลัก จี้ก้นจะเล่าให้ฟัง
เกิดอะไรขึ้นต่อไป ติดตามครั้งหน้านะคะ
*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า

– แอดหนูจัน – บล็อกเกอร์ตัวกลม อารมณ์ดีที่ชอบหาอะไรทำสนุกๆ ภายในบ้าน รักการเขียน การอ่าน การวาดรูป และการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องเขียน อุปกรณ์งานฝีมือและอุปกรณ์ศิลปะ Craft it Myself • Draw my Life • Create my World