การเลือกสีถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับคนทุกๆคนที่ต้องการทาสีใหม่
เพราะสีเป็นสิ่งที่ต้องคิดถึงระยะยาวมากๆ
เป็นสิ่งที่ยากที่จะเปลี่ยนและสร้างความแตกต่างได้มากที่สุดในหมู่ทั้งหมด
อย่างแรกที่จันทำคือการนั่งหาแรงบันดาลใจก่อน
หารูปจากอินเตอร์เน็ท หาหนังสือบ้านมานั่งดูนั่งศึกษา หรือการนั่งสังเกตฉากห้องในซีรีส์ต่างๆ
(not my credit)
ตอนแรกๆจันติดใจสีเข้มอย่างน้ำตาลมากๆ
จันว่ามันดูเคร่งขรึมแล้วก็สวยดี
แถมยังรู้สึกแปลกตาและแตกต่างจากห้องเดิมมากๆ
แต่พอได้ดูซีรีส์เรื่อง Ghost Friends กลับมาติดใจฉากร้านกิฟชอปที่นางเอกทำงาน part-time
เลยเอาเป็นสีสไตล์แบบ vintage country ผสม กับความเป็นป่าหน่อยๆแทน
(ฉากจากเรื่อง Ghost Friends) (not my credit)
(สไตล์เดียวกันจากหนังสือ Come Home! อันนี้แบบห้องทำงานค่ะ)(Credit : livejournal)
(ร้านกิฟชอบ am-home ของญี่ปุ่นค่ะ เห็นในเว็บไซต์ น่ารักมากๆ)
จันเลือกสีผนังตามเขาเลยค่ะ ^^
.
ว่ากันว่าสีผนังถ้าเป็นสีเข้มนั้นจะดูโฉบเฉี่ยว
แต่ก็ทำให้ห้องเล็กลง
และว่ากันว่าเป็นสีที่ทำให้เบื่อเร็วกว่าสีอ่อนๆ
แต่สีอ่อนๆเป็นสีที่หาของมาตกแต่งเข้ากันได้ง่ายกว่า
แต่ถ้าใช้สีขาวก็ต้องระวังมันหม่นด้วย
ก็ต่างจิตต่างใจ ต่างคนต่างชอบค่ะ ^^
.
พอคิดสไตล์ในหัวได้คร่าวๆแล้วก็ลองมาดูแคตาล๊อกสีกันค่ะ
แคตตาล๊อกสีโดยส่วนใหญ่จะมีภาพที่ลองทาไว้ให้ดูด้วย
แล้วก็สีที่เป็นช่องๆให้ดูด้วย
แต่เท่าที่สังเกตจันว่าสีในช่องๆมันไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริงนัก
คิดง่ายๆแค่การจะดูดสีจากรูปถ่ายเพียงจุดเดียวมาเป็นตัวแทนสีทั้งหมดก็ยากแล้วค่ะ
จันเลยดูจากสีที่เขาทาแล้วแล้วบวกลบเอาค่ะ
หมายความว่าพอเจอสีโทนประมาณนี้ก็ดูว่าต้องการเข้มหรืออ่อนกว่านี้
แล้วเทียบกับตารางสีอีกทีหนึ่ง
จันว่าความผิดพลาดจากการเลือกสีจะลดลงค่ะ ^^
.
การใช้สีผนังกับสีเพดานนิยมใช้สีที่ต่างกันนิดหน่อย
โดยให้เพดานเข้มกว่าผนัง
หรือตามมุมหลืบอาจจะใช้สีเข้มขึ้นเพื่อเล่นแสงเงา
แต่ค่าสีที่มีหลายเฉดขึ้นก็เพิ่มตามนะคะ ^^
.
นอกจากนี้ควรจะฟังเกี่ยวกับคำแนะนำการใช้สีในห้องต่างๆ
และผลจากสีซะหน่อยก็ดีนะคะ
ไหนๆแล้วก็เอามาฝากซะเลย
สีเหลือง – กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ ความกระตือรือร้น การมองโลกในแง่ดี และความมั่นใจ
เหมาะกับห้องครัว ห้องทำงาน ห้องลีฟวิ่ง และห้องกินข้าว แต่ไม่ควรใช้กับห้องนอนและห้องสำหรับเด็ก
สีส้ม – ให้ความรู้สึกอบอุ่น กระตุ้นความกระตือรือร้น ความสนุกสนาน ร่าเริง ผ่อนคลาย กระตุ้นความอยากอาหาร
เหมาะกับห้องโถง ห้องรับประทานอาหาร และห้องลีฟวิ่ง แต่ไม่ควรใช้กับห้องนอนและห้องทำงาน
สีแดง – สีแห่งความรัก ความปรารถนา และความเข้มแข็ง ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และมักทำให้เราอยู่ในห้วงแห่งความรัก
เหมาะกับห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว โถงทางเดิน และห้องกิจกรรมเด็ก แตาไม่ควรใช้ในห้องนอนและห้องทำงาน
สีชมพู – ช่วยให้เกิดความรู้สึกอ่อนหวาน ทะนุถนอม อบอุ่นใจ ผ่อนคลาย สงบและปลอดภัย
เหมาะกับการแต่งห้องน้ำ ห้องนอน ห้องลีฟวิ่ง โถงทางเข้า แต่ไม่ควรใช้กับห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร
สีม่วง – เป็นสีแห่งความร่ำรวย หรูหรา สง่างาม แต่ก็ให้ความรู้สึกลึกลับและระแวดระวัง
เหมาะกับการตกแต่งห้องนอน ห้องลีฟวิ่ง และห้องรับประทานอาหาร แต่ไม่เหมาะกับห้องครัว
สีเขียว – สร้างความสมดุล ความสงบ ผ่อนคลาย สามารถนำไปใช้ได้ทุกพื้นที่เพราะเป็นสีที่ช่วยสร้างความสมดุล ผ่อนคลายความเครียด
เหมาะกับห้องนอน เพราะทำให้ผ่อนคลายและหลับสบาย รวมถึงห้องทำงานและห้องน้ำด้วย
สีน้ำเงิน – ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และอบอุ่นใจ
เหมาะกับการแต่งห้องทำงาน ห้องหนังสือ ห้องน้ำ ห้องลีฟวิ่ง และห้องนอน แต่ไม่ควรใช้กับโถงทางเคิน ห้องครัวและห้องกิจกรรม
สีน้ำตาล – เป็นสีที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย และใกล้ชิดกับธรรมชาติ
เหมาะกับการตกแต่งทุกส่วนของบ้าน โดยเฉพาะห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน แต่น้ำตาลแต่ละเฉดจะให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเลือกตามวัตถุประสงค์ของห้อง
(สรุปจากหนังสือ Elle Decoration ธันวาคม 2552
ลองไปหาอ่านกันนะคะ)
.
ครั้งหน้าจะมาต่อการทำชั้นวางของสำหรับผู้หญิงสมบัติเยอะกันค่ะ :p
*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
– แอดหนูจัน – บล็อกเกอร์ตัวกลม อารมณ์ดีที่ชอบหาอะไรทำสนุกๆ ภายในบ้าน รักการเขียน การอ่าน การวาดรูป และการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องเขียน อุปกรณ์งานฝีมือและอุปกรณ์ศิลปะ Craft it Myself • Draw my Life • Create my World