[Journey] My Props Reaction! รอยยิ้มข้ามวัฒนธรรมผ่านแฟชั่น

คิดอยู่นาน ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องส่วนตัวและดูไร้สาระไปรึเปล่า แต่ก็อยากบันทึกรอยยิ้มที่เกิดขึ้นไว้

อ่านขำๆ แล้วกันนะคะ

แฟชั่นเป็นสิ่งที่สร้างรอยยิ้มค่ะ จันเชื่ออย่างนั้น!
เรื่องของเรื่องก็คือจันเป็นคนชอบใช้รองเท้ากับกระเป๋าแบบแปลกๆ มาก ถ้าสองอย่างนี้ให้ความรู้สึกแบบน่ารักแต่ก็ตลกนะ มันมักจะได้ใจจันไปซะทุกครั้ง จันจะใช้สิ่งต่างๆ เหล่านี้เวลาไปเที่ยวต่างประเทศค่ะ (อยู่เมืองไทยก็ใช้นะ แต่เสื้อผ้าจะไม่จัดเต็มมาก เพราะบ้านเราร้อนเหลือเกิน) แล้วทุกครั้งก็จะเจ้าบ้านนั้นๆ เข้ามาทักด้วยรอยยิ้ม รู้สึกว่าเป็นสีสันของการท่องเที่ยวที่แปลกดี เลยอยากเอามาเล่าให้ฟังกัน

รองเท้าติดโบว์ รองเท้ามีขนสีเหลืองติดรูปกระดูก กระเป๋ารูปตะกร้าปิคนิค รูปซีดีไวนิล รูปบิสกิต รูปหัวใจ และอีกสารพัดแบบ เมื่อมารวมกับชุดกระโปรงลายสกอต โค้ทสีเหลืองแปร๋น ถุงเท้าลูกไม้ พวงกุญแจหางขนๆ นั่นล่ะ คือการแต่งตัวที่จันมักใส่เวลาไปเมืองนอกเสมอ

เรื่องที่ 1

2014.11.23 Cappadocia, Turkey

วันนั้นจันตื่นแต่เช้าตรู่เพราะเราตั้งใจจะไปขึ้นบอลลูนกัน แต่หลังจากเช็คสภาพอากาศวันนั้นแล้ว อากาศแย่มากจนเอาบอลลูนขึ้นไม่ได้ หลังจากแน่นอนแล้วว่าไม่ได้ขึ้นบอลลูน จึงเดินถ่ายรูปยามเช้ารอบโรงแรมแล้วกินข้าวเช้า พอทานอาหารเช้าโรงแรมเสร็จ เดินออกจากห้องอาหาร มีผู้หญิงฝรั่งหัวทอง วัยกลางคนเดินเข้ามาจับแก้ม พูดภาษางงๆ ทำหน้าไม่ถูกเลย เดี๋ยวนะคะ! จับกันแบบนี้ก็ได้เหรอ!?

 

 

 

เรื่องที่ 2

2015.05.03 Luxembourg City, Luxembourg

วันนี้ใส่หมวกสีดำเบเร่ต์ติดลูกเชอรี่ เสื้อดำคอวี เอี้ยมกระโปรงลายสกอต เลคกิ้งยาวสีดำ ถุงเท้าขาวมีลูกไม้และรองเท้าทรงนักเรียนสีดำ พร้อมกับโค้ทสีเหลืองตัวที่เห็นกันแล้วอ่ะแหละ กระเป๋ารูปคุ้กกี้ eat me ติดพวงกุญแจหางขนๆ

ระหว่างเดินอยู่ตรงจัตุรัสใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์ Golden Lady หรือ Gëlle Fra ตรงนั้นมองเห็นตัวเมืองได้โดยรอบและมี Popup Carnival จัดงานอยู่ มีคนเข้ามาสะกิด เป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่น

Can you speak English?
พยักหน้าหงึกหงักไปทีนึง
Can I take a photo with you? Your clothes are so amazing! Kawaii (อ๊ะ สายญี่ปุ่นแฮะ!)
พยักหน้าหงึกหงักอีกที
แล้วก็ถ่ายรูปคู่กันในกล้องของน้อง ชูสองนิ้ว จากนั้น Thank you แล้วน้องเดินกลับไปหาเพื่อน แยกย้ายกันไป
จบเหตุการณ์แรก (ไม่ได้ขอรูปไว้ เสียดายจัง)

เหตุการณ์หลังจากนั้นเกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที คือมีน้องๆ อีกกลุ่มมาทำกิจกรรมนอกสถานที่กันแถวนี้ กลุ่มใหญ่มากเลย น้องมีเวิร์คชีทเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น เลยช่วยกันทำเท่าที่รู้ค่ะ รูปนี้ได้มาตอนนั้นล่ะ

 

เรื่องที่ 3

2015.05.03 Mannheim, Germany

หลังจากโซ้ยขาหมูเยอรมันไปหนึ่งขาเต็มๆ ลงท้อง ก็ออกมายืนรอรถกลับที่พักที่จัตุรัสซึ่งมีน้ำพุ พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว ระหว่างรอก็ถ่ายน้ำพุไปพลางๆ ขณะกำลังจะกดชัตเตอร์ให้พี่ชายหน้าลานน้ำพุ ผู้หญิง (ผู้ใหญ่หน่อยละ) มากันสามคน ตะโกนดังมากว่า “Manga Girl !!!” (ถ่ายรูปให้พี่อยู่ งงๆ ไม่คิดว่าจะเกี่ยวอะไรกับใคร) พอหันไปอีกที นางชี้มาที่เรา ตะโกนดังมาก กุลีกุจอหยิบกล้องตัวเล็กๆ ขึ้นมา (สีชมพูด้วย) แล้วบอกว่าขอถ่ายรูปหน่อย จับมือดิฉันด้วยนะ 555 แล้วก็แชะๆ ไปสองรูป วันนั้นเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วรู้สึกแปลกดีค่ะ สิ่งนึงที่ได้รู้จากการไปเที่ยวครั้งนี้ ก็คือวัฒนธรรมเอเชียไปไกลมากจริงๆ การได้เจอคนที่ความสนใจตรงกันในช่วงเวลาที่เราไม่คาดคิดน่ะ เป็นเรื่องอัศจรรย์ดีเนอะ

 

เรื่องที่ 4

2015.05.06 Lisse, Netherlands

แมว… เจอแมวตัวหนึ่งขนาดใหญ่ เหมือนลูกเสือย่อมๆ อยู่ที่ร้านอาหารจีนที่ไปนั่งหม่ำระหว่างทางจะไปสวน Keukenhof เป็นแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่งซึ่งไม่กลัวคนเลย เจ้าเหมียวมางึมงำๆ แอ้งแม้งอยู่ข้างๆ เก้าอี้ที่นั่งอยู่ เราก็ชอบมองแมวนะ แต่ไม่กล้าเล่น รู้สึกกลัวนิดหน่อย นั่งๆ อยู่ดีๆ หางที่เป็นพวงกุญแจแขวนกระเป๋าก็หล่นลงไป แกว่งต่องแต่ง อุต๊ะ! เท่านั้นแหละ แมวกระโดดโลดเต้น มาตะปบหางและงับหางทันที (ด้วยท่าทางสนุกมากกกกกกกกกกกกกๆ) เราก็กลัวหางจะขาด เลยยกขึ้นมาไว้บนตัก เสร็จแมวเหลือบไปเห็นชายกระโปรงห้อยจากเก้าอี้แล้วนางก็ทั้งตะปบทั้งข่วนทั้งงับชายกระโปรง ตกใจอ่า แต่ทั้งชายกระโปรงและหางไม่เสียหายนะ เพิ่งเคยเห็นแมวเล่นระยะประชิดครั้งแรกนี่ล่ะ ฮ่าๆ

 

เรื่องที่ 5

2017.05.02 Banff, Canada

ขณะที่กำลังจะไป Columbia Ice Field ซึ่งเป็นลานน้ำแข็งที่มีมาแต่โบราณอายุนับล้านปี เราจำเป็นต้องนั่งรถบัสคันโตที่มีล้อสำหรับขับบนน้ำแข็งโดยเฉพาะ โดยต้องนั่งรถบัสปกติไปยังจุดจอดรถคันโตนั้นอีกที คนขับเป็นผู้หญิงฝรั่งร่างท้วมคนหนึ่ง เธอเป็นคนขับรถพาเราไปนั่งรถคันโตนั้น ขณะขับรถ เธอแนะนำตัวเองว่า “ฉันจะเป็นไกด์สำหรับการเดินทางอันแสนยาวนานในครั้งนี้… ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 นาที” เมื่อถึงปลายทาง Super Long 3 Minutes ของเธอแล้ว เธอก็เดินเข้ามาพักรออยู่กับพวกเรา นางบอกว่า “วู้วว I love your purse. ❤” แล้วตามด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันอีกนิดหน่อยค่ะ

 

เรื่องที่ 6 

2017.05.04 Ottowa, Canada

วันนั้นไปเดินห้าง Hudson’s Bay ข้างตลาดตรงถนน Rideau Street พอดีเจอเคาท์เตอร์เครื่องสำอาง MAC ที่แม่เล็งไว้ในห้างฯ เลยเข้าไปดูกับแม่ ระหว่างเดินผ่านเคาท์เตอร์เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง (ถ้าจำไม่ผิดน่านะเป็นเคาท์เตอร์ LAB SERIES ค่ะ) ผู้ชายฝรั่ง ตัวสูง ไว้เคราสีน้ำตาล หน้าขาว แต่ปัดแก้มแล้วทาลิปแดง (ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไว้เคราด้วย แต่นางก็ดูเก๋ไก๋ทีเดียว เหมือนภาพวาดป๊อปอาร์ทเก๋ๆ) นางใส่เสื้อกาวน์สีขาว น่าจะเป็นพนักงานขาย นางมาทัก นางบอก “I love your purse. ❤” (กระเป๋าสะพายข้างเป็นรูปตะกร้าปิคนิค) … หลังจากนั้นพูดต่อเหมือนสงสัยว่าเจ้ากระเป๋านี้มันใช้อะไรยังไง เลยเปิดกระเป๋าให้ดู นางก็พูดเหมือนว่า “อ๋า เป็นแบบนี้เองเหรอ” แล้วนางก็แต้งกิ้ว ก่อนจะบ๊ายบายแล้วปล่อยให้เราเดินต่อไปยังจุดหมาย…

 

เรื่องที่ 7

2017.05.05 Ottowa, Canada

ตอนเช้า ขณะจะกลับห้องในโรงแรม เดินสวนกับเด็กน้อยผู้หญิงผมทองที่กำลังเข็นรถเด็กเบบี๋พร้อมกับเด็กๆ อีกสองสามคน เด็กน้อยหน้าตาน่ารักถึงกับหยุดเดิน แล้วหันมามองรองเท้า หยุดแบบหยุดจริงจัง ไม่ใช่แค่แอบมอง ฮ่าๆๆๆ สายตาน้องมองแรงมาก ถ้าเป็นรายการ Candid Camera น้องคงได้รางวัล MVP เลยล่ะ 

 

เรื่องที่ 8
2017.05.05 Kingston, Canada

หลังทานข้าวเช้าแล้ว เรานั่งรถไปเมือง Kingston เพื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือ Rockport แต่ว่าฝนตก เรามาถึงก่อนเวลาที่กำหนดไว้ จะอุดอู้อยู่ในรถก็กระไร เลยเข้าไปในร้านของฝากที่อยู่แถวนั้น เป็นเพียงร้านเดียวที่ยังเปิดอยู่ คนเยอะพอสมควรเพราะเป็นที่เดียวที่จะหลบฝนได้ เจอลูกอมรสเมเปิล ไซรับเลยถือไปที่เคาท์เตอร์เพื่อจ่ายตังค์ คนขายของบอกสะดุดรองเท้าตั้งแต่เดินเข้ามา นางก็ยิ้มๆ แล้วบอกว่ารองเท้าน่ารัก (แสดงว่ารสนิยมจันก็ไม่แปลกนะ ฮ่าๆ)

 

เรื่องที่ 9

2017.09.13 Moscow, Russia

แหม… คราวนี้เรื่องดันเกิดระหว่างการตรวจพาสปอร์ตเข้าประเทศรัสเซียที่เพิ่งไปมาหมาดๆ ค่ะ หลังจากลงจากเครื่องบินก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ในกล่องกระจกใส มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงนั่งอยู่ในนั้น จันยื่นพาสปอร์ตเข้าไปให้ผ่านช่องบนกระจกเล็กๆ เจ้าหน้าที่ก็ก้มดูพาสปอร์ต แล้วเงยหน้ามามองหน้าจัน ก้มๆ เงยๆ ขณะมือไม่ได้หยุด ผ่านไปสักพัก นางหันไปหาเจ้าหน้าที่ข้างๆ ซุบซิบกันพักนึงแล้วมองหน้าอีก (ไม่รู้จะทำหน้ายังไงได้แต่ยิ้มๆ ในใจเริ่มหวั่นๆ เอ่อ อย่าไล่กะเหรี่ยงอย่างหนูกลับบ้านเลยนะคะ หนูจะเป็นเด็กดี…) สุดท้ายหลังจากก้มๆ เงยๆ พร้อมอมยิ้มอยู่นิดหน่อย นางก็สอดใบเข้าเมืองในพาสปอร์ตแล้วส่งคืนกลับมา (ก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามองอะไรกันนะ ?)

 

เรื่องที่ 10

2017.09.14 Moscow, Russia

ในคืนวันที่สองในประเทศรัสเซีย เราไปกินข้าวที่ร้านอาหารน่ารักๆ แห่งหนึ่ง ที่นี่ตกแต่งรอบๆ ร้านด้วยไม้สีอ่อน เน้นของตกแต่งเป็นโทนแดงขาว พนักงานชายหญิงแต่งตัวน่ารักๆ ที่เป็นเสื้อผ้าพื้นเมือง หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วก็เดินถ่ายรูปเล่นในร้าน ชายร่างสูง สวมเสื้อกั๊กและเนคไทเดินผ่านมา เขาเป็นผู้จัดการร้านค่ะ เขาเหลือบมาเห็นกระเป๋าจันพอดี เขาตื่นเต้นมาก เขามาลูบๆ แล้วก็รัวภาษารัสเซียใส่จันใหญ่เลย ลูบๆ ทำหน้าตื่นเต้นอยู่สักพักเขาก็บอกให้จันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยสิ จัดแจงเรียกพนักงานเสิร์ฟให้จันเสร็จสรรพ เอากล้องจันไปถ่ายให้ (แม้จะเบลอ ฮ่าๆ) ท่าทางจะชอบกระเป๋าเอามากๆ เลยน้า…

 

เรื่องที่ 11

2017.09.16 Saint Petersburg, Russia

วันนั้นนั่งรถไฟด่วนข้ามไปที่เมือง Saint Petersburg ค่ะ ตอนเที่ยงไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารจีนตกแต่งสวยๆ แห่งหนึ่งในเมือง หลังกินข้าวเสร็จ เดินชมร้านอย่างละเอียดแป๊บนึง ก็ออกมาเดินสูดอากาศนอกร้าน อากาศดีมากๆ ท้องฟ้าสดใส แต่เอ๊ะ? มีพนักงานตามออกมาด้วย เธอออกมาพร้อมโทรศัพท์มือถือ แล้วเข้ามาสะกิดแล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยสิ ชอบรองเท้ามากเลยค่ะ” เป็นคนเดียวในทริปนี้เลยน้าที่ชอบรองเท้า พอพ่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยถ่ายรูปนี้ไว้ด้วยค่ะ

 

เรื่องที่ 12

2017.09.17 Saint Petersburg, Russia

วันนั้นไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ Hermitage Museum ท่ามกลางผู้คนมากมาย เราได้แต่เดินไหลไปตามทาง ที่นี่มีภัณฑารักษ์ (เจ้าหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์) นั่งเฝ้าอยู่เป็นระยะๆ แถมยังมีเชือกกั้นที่มีเซ็นเซอร์ด้วย ระหว่างที่เดินอยู่ก็มีภัณฑารักษ์คนหนึ่งเดินผ่าน เธอเห็นกระเป๋าเข้าพอดี “Oh! Nice bag!” เธอลูบๆ อยู่สองสามที ตอนนั้นทำให้รู้สึกว่าภาพภัณฑารักษ์ดุๆ ลดลงไปสองระดับเลยค่ะ หลังจากนั้นจันก็ยังเจอกับเธออีก เพราะเธอเดินไปเดินมาระหว่างห้องตลอด เธอยิ้มให้จันทุกครั้งเลย ระหว่างเดินอยู่ด้านในก็มีนักท่องเที่ยวที่มาขอลูบๆ เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ซะนี่ เป็นเหตุการณ์ที่ตลกดีค่ะ

การท่องเที่ยวเป็นความสนุกอย่างหนึ่ง
การได้เห็นสิ่งที่แตกต่างออกไปจากชีวิตประจำวัน แค่นั้นก็ชวนให้ใจเต้นแล้ว
การได้แต่งตัวในแบบที่ชอบก็เป็นความสนุกอีกอย่างหนึ่ง
แต่การได้เจอปฎิกิริยาของผู้คนต่างชาติต่างภาษาอย่างไม่คาดฝัน
เหตุการณ์ต่างๆ นั้นเป็นประสบการณ์ที่พิเศษจริงๆ ค่ะ

การเดินทางเนี่ย สนุกจัง !
“แฟชั่นที่สร้างรอยยิ้มเป็นสิ่งที่ก้าวข้ามวัฒนธรรมจริงๆ เนอะ!”

แต่ไม่ว่าจะเดินทางท่องเที่ยวแบบไหน
ก็อย่าลืมทำตามกฎตามระเบียบและเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีด้วยนะ
เจ้าบ้านจะได้ต้อนรับเราด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ 😀

แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ

*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนโดยจันเอง
ใครจะก๊อปไปไว้ไหน เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า