[Digital x Drawing] ตอนที่ 3 : จากลายเส้นสู่ vector

เอาล่ะๆ วันนี้จะเข้าเรื่อง Illustrator กันแล้วค่ะ จะบอกก่อนว่าจันก็ไม่ค่อยเก่งโปรแกรมนี้เท่าไหร่ เพราะมาหัดใช้จริงๆ ตอนเริ่มทำงานนี่เอง และงานที่จันทำมันไม่ได้ใช้การวาดรูปสักเท่าไหร่ก็เลยใช้ AI (ขอย่อ Illustrator แบบนี้แล้วกันนะคะ จะได้ไม่ต้องเขียนยาวๆ) วาดรูปได้แย่และช้ามาก ฮ่าๆ

อธิบายเกี่ยวกับโปรแกรม Illustrator ก่อนแล้วกัน

Illustrator เป็นโปรแกรมทำกราฟฟิคอีกโปรแกรมหนึ่งค่ะ จุดเด่นของโปรแกรมนี้คือจะเก็บภาพที่เราวาดเป็น vector ซึ่งขยายเท่าไหร่ก็ได้ไม่แตก (ลองดูภาพข้างบนนะ ซ้ายเป็นภาพ JPG ขวาเป็น vector ขยาย 1200%) แต่ต้องวาดจาก Illustrator ตั้งแต่ต้นนะคะ ไม่ใช่เอารูป JPG มาแปะแล้วหวังจะให้ไม่แตก อันนี้ไม่ใช่นะ สมมติทำงานจาก photoshop แล้วเอามาแปะใน illustrator จะหวังให้แก้ไขได้ ขยายได้แบบไฟล์ AI อันนี้ทำไม่ได้ค่ะ

 

วิธีการวาดรูปใน Illustrator มี 2 วิธีหลักๆ ที่จันใช้คือ วาดสดในโปรแกรม (รูปซ้าย) กับวาดและทำเส้นในกระดาษจากนั้นใช้ฟังก์ชั่น image trace ให้แปลงเป็น vector (รูปขวา) ค่ะ

ภาพซ้ายนี้วาดประกอบโฆษณา Tsuruha Drugstore ค่ะ นานแล้วล่ะ

รูปนี้วาดด้วย illustrator โดยตรง การวาดสดนั้น ไม่ใช่มีเมาส์ปากกาแล้วขีดๆ เขียนๆ เหมือนที่เราเข้าใจนะคะ จุดที่ยากของ Illustrator คือทุกส่วนที่เราวาดจะต้องเป็นเส้นปิด ห้ามเป็นเส้นเปิด (ลองดูที่ถอดประกอบให้ดูนะคะ) เพราะไม่อย่างนั้นจะใส่สีไม่ได้ เปรียบเทียบกันก็ Photoshop เหมือนเราระบายสีด้วยดินสอสี ลากยังไงไปเท่านั้น แต่ AI คือการเทน้ำสีลงแก้ว ถ้าแก้วมีแตก ไม่สนิท น้ำก็จะหกค่ะ

และเวลาจะวาดใน AI จะใช้วิธีการดัดเส้นพร้อมกับการใช้รูปทรงมาตรฐาน (สี่เหลี่ยม วงกลม อะไรแบบนี้) มาประกอบเป็นรูปค่ะ ไม่ใช่การลากเส้น ลองดูในภาพตรงเส้นที่ขาด อันนั้นจันซ่อมเส้นในโปรแกรมโดยการดัดเส้นค่ะ การดัดเส้นขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแต่ละคน บางคนไม่ต้องร่างแล้วดัดเส้นตามภาพที่นึกได้ก็มี แต่ถ้าดัดตามแบบร่างจะง่ายกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดัดเส้นก็ไม่ง่ายที่จะทำให้ได้ดั่งใจนึก เวลาดัดเส้นให้โค้งตามความต้องการ ต้องค่อยๆ ดัดเส้น แล้วคิดว่าจะตัดขาหรือไม่ตัดขา พอคิดว่าต้องค่อยๆ ลาก ค่อยๆ คิดแบบนี้ทุกครั้งที่จุดลงไปแล้วมันจะยากแค่ไหน !!

แต่สิ่งที่ทำให้เกิดผลดีจากความพยายามนี้ก็คือ เราเลือกได้ว่าจะให้ภาพมีเส้นขอบหรือไม่มี และลายเส้นออกมาสวยกว่า จุดที่โค้งก็โค้งจริงๆ ไม่มีเหลี่ยมมุม เลือกขนาดของเส้นได้ว่าจะให้ใหญ่เล็กยังไง

ส่วนอีกวิธีหนึ่งที่จันใช้ (สำหรับเด็กอ่อนหัดการดัดเส้นอย่างเรา T^T) ก็คือการใช้ image trace ค่ะ ซึ่งก็คือการแปลงเส้นที่เราสแกนเข้าไปเป็น vector แล้วเอาไปลงสีใน AI ค่ะ วิธีสะดวก รวดเร็ว แค่วาดรูปและรู้หลักการ Trace ก็พอใช้ได้

 

ข้อเสียก็มีอยู่ คือ เส้นที่เราสแกนเข้าไปจะลบออกไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นจะเกิดช่องว่างระหว่างช่องที่ใส่สี จะเปลี่ยนสีเส้นเฉพาะจุดไม่ได้ เพราะเส้นทั้งหมดที่เชื่อมต่อกันถือเป็นก้อนเดียวกันหมด และส่วนที่เราใช้ปากกาเส้นเล็กเกินไปก็อาจขาดได้เหมือนที่ต้องมาซ่อมเส้นรูปข้างบน

อีกเรื่องที่ต้องระวังมากๆ ตั้งแต่ทำต้นฉบับคือไม่ควรใช้กับภาพที่ซับซ้อนหรือมีรายละเอียดเยอะๆ เพราะมันจะคำนวณไม่ถูกจนเละไปหมดค่ะ

 

แล้วเราทำอะไรกับ image trace ได้บ้าง แน่นอนว่าเราจะขยายรูปนี้ใหญ่เท่าไหร่ก็ได้โดยไม่แตก เปลี่ยนสีเส้นได้ ลงสีได้ เอาพื้นหลังออกแล้วเปลี่ยนเป็นสีอื่นลายอื่นได้ (เอาออกได้เนี๊ยบมากๆ)

วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเรื่องเทคนิคการเตรียมภาพสำหรับ image trace จะพูดละเอียดๆ ในอาทิตย์หน้าค่ะ
ติดตามกันด้วยนะคะ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-* Advertisement *-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ส่วนหนึ่งของ Tutorial ในครั้งนี้มาจากงานออกแบบผ้าพันคอให้แบรนด์ Little Googgig ค่ะ

ใครสนใจสั่งผ้าพันคอที่จันออกแบบก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่

https://www.facebook.com/littlegooggig

ครั้งนี้คอนเซปต์คือผ้าพันคอแห่งความสุขค่ะ
จันรวมของนำโชคตามความเชื่อของจีนหลายๆ อย่างมารวมไว้ เพื่อให้สุขทั้งคนใส่สุขทั้งคนรับ
นอกจากนี้ได้ออกแบบแพคเกจ กระดาษห่อ และโลโก้ของแบรนด์ด้วยค่ะ

*********************

ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า