Nuchun's Atelier

บล็อกรีวิวเครื่องเขียน l สีมาร์คเกอร์ l อุปกรณ์วาดรูป พร้อมวิธีทำงานประดิษฐ์สนุกๆ ที่ทำได้ที่บ้าน

ภาพนูนต่ำ : ตอนที่ 2 : รูปและกระดาษ

วันนี้จะเริ่มลงมือทำภาพนูนต่ำกันนะคะ

สำหรับขั้นแรกที่เราจะต้องทำคือการเลือกรูปและกระดาษค่ะ

 

ภาพที่จะใช้ทำ จะเป็นรูปถ่าย หรือ ใช้รูปวาด รูปการ์ตูนอย่างที่จันทำก็ได้เหมือนกันค่ะ

ถ้าเพิ่งเริ่มต้น จันแนะนำให้ลองหารูปที่…

1. รายละเอียดไม่มาก อย่างรูปคนกับแบ็คกราวโล่งๆ รูปวัวบนทุ่งหญ้า ต้นไม้กับท้องฟ้า อะไรแบบนี้ค่ะ

2. ไม่มีส่วนโค้งเยอะ ถ้าเป็นพวกอาคารก็พยายามหารูปที่ไม่โค้งมาก ตัดตรงๆ ได้

3. เห็นขอบชัดเจน รูปไหนฟุ้งๆ เบลอๆ ทำออกมาจะไม่สวยค่ะ เพราะความฟุ้งนั้นจะหายไป ตามรอยคัตเตอร์ของเรา

4. ไม่ทับซ้อนกันเยอะ ยิ่งซ้อนเยอะเท่าไหร่ ยิ่งต้องตัดเยอะ ซ้อนเยอะมากเท่านั้น

รูปนี้คือต้นฉบับที่ใช้ทำค่ะ อันนี้ถือว่าเป็นรูปที่ไม่เข้าข่ายการฝึกทำค่ะ 55+ แต่ทำเพราะความชอบส่วนตัว ก็นั่งปาดเหงื่อ ทำกันไปหลายชั่วโมงเลย

การหารูปเราสามารถหาจากแหล่งได้ก็ได้ หนังสือ นิตยสาร หรือจากอินเตอร์เน็ตก็ได้ แต่ต้องสามารถนำมาก๊อปปี้ได้ ถ้าเป็นกระดาษให้สแกนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วจะปริ้นหรือเอาไปอัดก็แล้วแต่ ถ้ามีฟิล์มก็ไปอัดมาเพิ่มก็ได้ ภาพนูนต่ำ 1 ภาพ จะใช้รูปๆ เดียวกันอย่างน้อย 4 รูป อย่างของจันนี่ใช้ 6 รูปค่ะ ยิ่งรูปซ้อนกันเยอะ รายละเอียดมาก ก็จะยิ่งใช้รูปเยอะเท่านั้นค่ะ

สุดท้ายคือเรื่องขนาด ยิ่งเล็ก ยิ่งละเอียด ยิ่งเสี่ยงพลาด และยิ่งใช้สายตามากค่ะ แนะนำให้ทำขนาดครึ่ง A4 หรือใหญ่กว่านั้น คุณจะได้เห็นภาพชัดเจน และตัดได้ถนัดถนี่หน่อย

ต่อมาเป็นเรื่องของกระดาษกันบ้างค่ะ !

หลังจากที่เลือกได้แล้วสแกนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทำสำเนา ก็ต้องมานั่งคิดอีกว่า แล้วจะใช้กระดาษแบบไหนดี ?

กระดาษแต่ละแบบให้สีสัน พื้นผิว และความมันเงาต่างกันออกไปค่ะ ลองเทียบกันดู

เรียงจากซ้ายไปขวา : กระดาษการ์ด กระดาษ 100 ปอนด์ และกระดาษอัดรูปแบบด้าน

กระดาษการ์ด : แนะนำให้ใช้แบบ 180 แกรมซึ่งเป็นกระดาษที่หนาหน่อยค่ะ เราสามารถปริ้นเองได้จากปริ้นเตอร์ที่บ้าน กระดาษแบบนี้จะไม่มีความมันเงา ซึ่งจันว่ามันดีตรงที่ช่วยอำพรางรอยขูดให้นูนได้ค่อนข้างดี และไม่สะท้อนแสงมากทำให้เราเห็นความนูนได้ชัดเจนขึ้น แต่สีจะสดสู้การเอารูปไปอัดไม่ได้ค่ะ อ่อ ที่ดีอีกอย่างคือไม่เหนียวมือเวลาจับ แต่ไม่ทนทานน้ำและความชื้นค่ะ

กระดาษ 100 ปอนด์ : กระดาษ 100 ปอนด์หรือกระดาษวาดเขียนจะหนาและนุ่มกว่ากระดาษการ์ด ทำให้ทำเป็นลายนูนได้ง่ายกว่า พื้นผิวแบบขรุขระและไม่มันเงา ทำให้ดูคล้ายผ้าและดูนุ่มนวล แต่ประเด็นคือ จันไม่เคยลองเอาเข้าเครื่องปริ้น เลยไม่รู้ว่าสามารถปริ้นได้ไหม และหมึกติดดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณจะวาดมือและสามารถวาดซ้ำๆ ได้ กระดาษ 100 ปอนด์น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ

กระดาษอัดรูป : ข้อดีของกระดาษอัดรูปคือสีสด ชัดเจนตามคุณภาพรูป และเป็นมันกว่ากระดาษชนิดอื่นค่ะ อีกทั้งหมึกไม่เลอะเมื่อโดนน้ำ รูปที่จันทำก็เอารูปไปอัดเอา สะดวกดี แต่รูปที่ออกมาจะแข็งนิดหน่อย กระดาษการ์ดกับ 100 ปอนด์จะซอฟต์กว่าค่ะ อีกอย่าง เนื่องจากกระดาษค่อนข้างมัน ทำให้ถ่ายรูปยากค่ะ โดนไฟเมื่อไหร่กลายเป็นรอยแสงสะท้อนชัดเจน แต่ข้อที่ต้องจำไว้คือให้สั่งอัดแบบกระดาษด้านค่ะ ห้ามใช้กระดาษมัน เพราะเราต้องจับกระดาษตลอดการทำงาน ถ้าใช้กระดาษอัดมันจะเห็นรอยมือเป็นไขมันมือของเราได้ค่ะ

เมื่อเลือกได้แล้วก็ให้สำเนาออกมาตามขนาดและจำนวนที่ต้องการได้เลยค่ะ ใครที่เอาไปอัด ให้สั่งกระดาษด้านไม่ปรับสี (เผื่อว่าอัดมาไม่พอจะได้สามารถอัดใหม่ได้โดยสีเหมือนเดิมค่ะ) อัดมาสักหกเจ็ดรูปก็ดีค่ะ จะได้ไม่เสียเที่ยวแถมอัดสองครั้ง บางทีสีอาจไม่เท่ากันได้นะ (เคยประสบปัญหานี้มาแล้ว) ส่วนคนที่ปริ้นท์ให้ระวังเรื่องขนาดด้วยนะคะ ปริ้นออกมาให้ขนาดเท่ากันด้วย ทางที่ดีปริ้นรวดเดียวให้พอใช้ดีที่สุดค่ะ แล้วก็อย่าลืมเช็คปริมาณหมึกก่อนปริ้นด้วยนะคะ เดี๋ยวหมดกลางคันล่ะยุ่งเลย ถ้าอยากได้รูปชัดเจนก็อย่าลืมปรับคุณภาพด้วยค่ะ

ครั้งหน้าจะมาต่ออุปกรณ์ทั่วๆ ไปในการทำค่ะ

*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า