ตอนนี้ขอไร้สาระสักตอนนะคะ อยากจะพรรณาขาหมูเยอะละมัน เอ้ย เยอรมันให้ฟัง
หลังจากออกจากเมือง Luxembourg City แล้ว ก็มุ่งตรงสู่เมือง Mannheim ที่ประเทศเยอรมันค่ะ
สิ่งที่ตั้งตารออยู่คือขาหมูเยอรมันค่ะ ขอพี่กินทั้งขาเลยนะ 55 สองพี่น้องรอหม่ำฮะ 55 แต่เดี๋ยวก่อน…
คุณไกด์แวะพาไปชมมหาวิทยาลัย Mannheim University ค่ะ ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการวิจัยของประเทศเยอรมันค่ะ โดยมีชื่อเสียงทั้งในด้านเศรษฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ค่ะ ทั้งมหาวิทยาลัยนั้นตั้งอยู่รอบๆ Mannheim Baroque Palace ซึ่งเป็นปราสาทแบบ Baroque ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมันค่ะ
รอบๆ เต็มไปด้วยอาคารทรงโบราณ สวยสงบมากเลยนะ หลังจากที่ออกจากโซนมหาวิทยาลัยแล้ว เรามุ่งตรงสู่ร้านอาหารค่ะ ขาหมูเยอรมัน เย้ๆ!!!
ร้านขาหมู Andechser เขาบอกว่าติดอันดับของเมืองค่ะ
ร้านบรรยากาศน่ารักทีเดียวเลยค่ะ ให้ความรู้สึกแบบคันทรี่น่ะ (เอียงคอดูกันหน่อยแล้วกันเนอะ)
สลัดที่ไม่ได้กิน ของโต๊ะอื่น ฮ่าๆ สังเกตด้านหลังนะ วิธีการทำขาหมูของที่นี่ไม่ได้ใช้วิธีทอดนะคะ แต่จะใช้วิธีอบให้หนังกรอบ (แข็งนิดๆ) หมุนๆๆ เหมือนหมูหันเลยแฮะ
นี่ก็ขาหมูค่ะ เขากินกันคนละขา ทัวร์ก็ให้หม่ำคนละขานะ ความเห็นส่วนตัวคือหนังออกไปทางกรอบแข็ง (แต่ไม่มันเลยนะ ไม่อมน้ำมันเพราะเขาไม่ได้ทอด) คิดว่าคุณลุงๆ ที่ฟันไม่ค่อยดีนักอาจจะฟันปลอมร้าวได้ค่ะ รับประทานอย่างระมัดระวัง รสชาติตามสไตล์อาหารยุโรปก็คือเค็มนำมาก่อนเลย ส่วนที่ดูดำๆ รู้สึกจะเป็นเกลือผสมเครื่องเทศ เขี่ยออกสักหน่อย ส่วนเนื้อในอร่อยมากกกค่ะ จันชอบนะ คือมันนิ่มดี รสชาติกำลังดีเลย อร่อยจนสงสัยว่าหรือตรงหนังเขาไม่ให้กินหว่า…? ไม่หรอกมั้ง
เป็นครั้งแรกที่หม่ำเบียร์ด้วย (เด็กโข่งผู้อ่อนต่อโลก) รสชาติไม่ขมเท่าไหร่ค่ะ พอทานได้อยู่นะ ดื่มเสร็จไม่ทะเลาะกับคนอื่น (ตอนเด็กๆ เมาไก่อบภูเขาไฟ แล้วชวนพี่ทะเลาะค่ะ ฮ่าาๆ) ใช้ได้ค่ะๆ ติดใจนิดนึง ที่นี่เขาทานกันต่างน้ำเลยล่ะ แต่ก็ไม่แปลกใจนะ เพราะเบียร์เขาไม่แรงแล้วก็ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นได้ดีทีเดียวนะ
ซากกระดูกค่ะ แค่อยากอวดความเกลี้ยง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ข้างๆ เป็นมันบด จริงๆ ก็อร่อยนะ เป็นมันบดดึ๋งๆ อ่ะ แปลกดี ให้ความรู้สึกแบบขนมตาลหน่อยๆ แต่ไม่ชอบกินมันบดเลยเหลือไว้เป็นอนุสรณ์
เปรียบเทียบปริมาณคนปกติหม่ำกับยักษ์หม่ำ ฮ่าๆ
ไอติมนี่น่าเมากว่าเบียร์อีกค่ะ กลิ่นเหล้าแรงมากเลยล่ะ แต่ก็กวาดลงท้องจนหมดนั่นล่ะนะ หน้าแดงขึ้นมานิดนึง
หน้าร้านมีอนุสาวรีย์คุณ Wolfgang ค่ะ คำว่า “วูลฟ์กัง” เนี่ย ชื่อคุ้นหูมานานแล้วนะ เคยคิดว่าต้องเป็นคนดังสักคน แต่พอมาเสิร์ชดูทีหลัง กลับเป็นชื่อผู้ชายของเยอรมันเขา ซึ่งก็มีคุณวูลฟ์กังดังๆ อยู่หลายสิบคน คนนี้ชื่อ Wolfgang Heribert von Dalberg ค่ะ เป็นนักประพันธ์บทละคร นักกฎหมาย ซึ่งเป็นผู้จัดการและผู้อำนวยการของโรงละครแห่งชาติในเมือง Mannheim และ รัฐมนตรีประจำรัฐ Baden ค่ะ
เดินออกมารอรถตรงนี้ล่ะ เป็นจัดุรัสมีน้ำพุสวยดี พระอาทิตย์เริ่มคล้อยแล้ว เจอฝรั่งตื่นจันอีกแล้ว
คราวนี้เป็นผู้หญิงผู้ใหญ่หน่อยละค่ะ มากันสามคน ตะโกนดังมากว่า Manga Girl !!! (จันถ่ายรูปให้พี่อยู่ งงๆ ไม่คิดว่าจะเกี่ยวอะไรกับใคร) พอหันไปอีกที นางชี้มาที่เรา ตะโกนดังมาก กุลีกุจอหยิบกล้องตัวเล็กๆ ขึ้นมา (สีชมพูด้วย) แล้วบอกว่าขอถ่ายรูปหน่อย จับมือดิฉันด้วยนะ 555 แล้วก็แชะๆ ไปสองรูป จบเรื่องด้วยประการนี้
วันนี้เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วรู้สึกแปลกดีค่ะ สิ่งนึงที่ได้รู้จากการไปเที่ยวครั้งนี้ ก็คือวัฒนธรรมญี่ปุ่นไปไกลมากจริงๆ การได้เจอคนที่ความสนใจตรงกันในช่วงเวลาที่เราไม่คาดคิดน่ะ เป็นเรื่องอัศจรรย์ดีเนอะ
ครั้งหน้าจะมาต่อไปชมเมือง Heidelburg ค่ะ
*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเอง ใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
– แอดหนูจัน – บล็อกเกอร์ตัวกลม อารมณ์ดีที่ชอบหาอะไรทำสนุกๆ ภายในบ้าน รักการเขียน การอ่าน การวาดรูป และการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องเขียน อุปกรณ์งานฝีมือและอุปกรณ์ศิลปะ Craft it Myself • Draw my Life • Create my World