ช่วงเวลานี้เมื่อปีที่แล้ว จันข้ามน้ำข้ามทะเลไปเที่ยวยุโรปมาค่ะ
ไปเที่ยวทัวร์กับที่บ้านเช่นเคย “Tulip Benelux” 7 วัน 5 คืน วันที่ 31 เมษายน – 7 พฤษภาคม 2558 กับทัวร์ SBA ค่ะ
ช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีเทศกาลดอกทิวลิป ที่สวนเคอเคนฮอฟค่ะ อากาศฤดูนี้มีฝนอยู่บ้าง แต่เป็นช่วงที่ช่วงกลางวันยาวนาน คนยุโรปเองก็นิยมเที่ยวเช่นเดียวกันค่ะ
จันนั่งเครื่องบินหลับไม่รู้กี่ตื่น ใช้เวลา 11 ชั่วโมงจนไปถึงสนามบิน Schiphol ที่เมือง Amsterdam ค่ะ
ตอนที่ไปถึงเป็นเวลาประมาณ 20.45 ที่บ้านเขาค่ะ ร้านรวงในสนามบินก็ปิดเกือบจะหมดละ พอดีเจอร้านหนังสือเล็กๆ อยู่ตรงหน้า เลยเข้าไปซื้อได้สมุดยี่ห้อ MOLESKINE ปกแข็งมาเล่มนึงค่ะ เป็นปกหุ้มหนัง สีแดง ขนาด A5 ราคา 16.9 ยูโร จริงๆ ในสนามบินร้านเยอะเลยอ่ะ มีทั้งกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แม้แต่ชุดชั้นใน เดินไปเห็นแต่ห้องกระจกมืดๆ เสียดายมากที่ปิดไปหมดแล้ว
วันนั้นเป็นวันชาติของที่นู้นพอดีเลยค่ะ ทางทัวร์เองก็เหมือนจะไม่ได้เตรียมการอะไรไว้เผื่อ ก็เลยขลุกขลักเรื่องรถมารับเล็กน้อย เพราะรถที่ควรจะมารับเขาไปรับคนวันชาติ แล้วเครื่องบินดีเลย์ประมาณ 1 ชั่วโมงด้วย เลยไม่ได้รอเรา สุดท้ายเลยต้องนั่งแท็กซี่มาโรงแรม เป็นรถคันใหญ่ๆ สีดำที่หันหน้าเข้าหากันค่ะ รถคันใหญ่จะราคาเป็นสองเท่าของราคาแท็กซี่ปกติค่ะ แหม ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันชาติ ก็คงไม่มีโอกาสได้นั่งรถแท็กซี่หรอกเนอะ ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะ ถนนที่นี่เรียบมาก ไม่รู้สึกสะดุดเลย
วันรุ่งขึ้นเราออกเดินทางจากอัมสเตอร์ดัม เพื่อไปเที่ยวเมือง Bruges ประเทศเบลเยี่ยมค่ะ เดินทางอยู่นานเหมือนกัน
สองข้างทางก็มีวิวประมาณนี้ เห็นต้นดอกเหลืองๆ นั่นไหมคะ ในฤดูใบไม้ผลินี่มีให้ดูสองข้างทาง เป็นทะเลสีเหลืองเลยล่ะค่ะ เขาเรียกว่าดอกเรปซีด (Rapeseed) ค่ะ ที่นี่นิยมปลูกกันมาก เป็นพืชที่มีประโยชน์ทั้งเป็นอาหารสัตว์ ใช้ทำน้ำมันพืชก็ได้ และทำไบโอดีเซลก็ได้ และเป็นพืชที่มีโปรตีนสูงด้วยล่ะ
ถึงจุดพักรถแอบไปหยอดกาชาปองยุโรปมา เป็นฟันตลกค่ะ หุหุ ตลกอ่ะ! เป็นเขี้ยวแดรกคุล่า
พูดถึงการขับรถของที่นี่ สำหรับรถใหญ่ ที่ยุโรปจะขับรถไม่เกิน 100 กม./ชม. ส่วนรถเล็กไม่เกิน 120 กม./ชม. การขับรถรับจ้างจะทำงานติดต่อกันได้แค่ 12 ชั่วโมงนับแต่สตาร์ทเครื่อง และระยะเวลาขับรถรวมกันไม่เกิน 9 ชม. หยุดพักทุกสองชั่วโมง ครั้งละ 20 นาที แล้วเขาตรวจสอบได้ยังไง ที่เขาตรวจสอบได้เพราะเวลาขับรถต้องเสียบใบขับขี่เพื่
ในซุปเปอร์ที่นี่มีขนมเลย์ แต่เป็นแบบอบด้วยนะ แล้วก็มี Magnum 6 รสราคา 2.99 ยูโร ตอนนี้ที่ไทยเอาเข้ามาครบแล้วรึยังนะ มี Classic, White, Mandel (ช็อกโกแลตอัลมอนด์มั้ง), Strawberry White, Yoghurt Fresh, Gold ค่ะ ตอนนี้น่าจะมีรสอื่นออกมาอีกแหละ
เมื่อมาถึงก็เดินจากลานจอดรถทัวร์สู่เมืองบรูจ ระหว่างทางเงียบสงบมากค่ะ สถาปัตยกรรมน่ารัก อากาศก็ดี สบายๆ ธรรมชาติก็สวยอยู่ มีดอกทิวลิปซุ้มเล็กๆ ให้ถ่ายรูปได้ด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับเมือง Bruges เพิ่มเติมพร้อมเวลาเปิดปิดของสถานที่แต่ละแห่ง ดูได้ที่นี่ค่ะ https://bezoekers.brugge.be/en (EN)
มีใบไม้แดงโผล่มาด้วยแน่ะ นี่ฤดูใบไม้ผลินะ
เมืองบรูจเป็นเมืองมรดกโลก ตั้งอยู่ที่บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเบลเยี่ยมค่ะ เป็นเมืองที่มีคูคลองหลายสายพาดผ่าน จนได้ชื่อว่าเป็นเมือง “เวนิสแห่งยุโรปเหนือ” นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพราะมีท่าเรือ ครั้งหนึ่งก็เคยเป็นเมืองการค้าชั้นนำระดับโลกทีเดียว
ตึกรามบ้านช่องจะเป็นอิฐแดง ให้ความรู้สึกแบบเมืองในการ์ตูนดิสนีย์ที่นางเอกออกมาซื้อของแล้วร้องเพลง 555
St. John’s Hospital ตรงข้าม Our Lady’s church คนนั่งรอเยอะมากเลย น่าจะรอลงเรือค่ะ
Our Lady’s church ค่ะ หอที่สูงๆ นั้นสูงถึง 122.3 เมตร เป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดในเมืองนี้ค่ะ และเป็นอาคารก่ออิฐที่สูงเป็นอันดับสองของโลกด้วย ภายในโบสถ์แห่งนี้มีรูปแกะสลักหินอ่อน Madonna ฝีมือของไมเคิล แองเจลโล่ค่ะ
รูปปั้นนี้เห็นอยู่หน้าประตู เลยไม่แน่ใจว่าใช่ไหม
เดินข้ามสะพานตรงข้าม Church of Our Lady เพื่อไปยัง The Provinciaal Hof หรือศาลาเทศบาลเมืองค่ะ
ทางเดินผ่าน ใช้เวลานิดนึงอยู่เหมือนกันค่ะ จริงๆ ตรงนั้นมีตลาดนัดด้วย คนเอาของเก่าๆ มาขายกัน
เดี๋ยวจะพาชมบรรยากาศครั้งหน้าค่ะ
The Provinciaal Hof ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ด้านหนึ่งของศาลาเทศบาลเมืองเป็นพื้นที่โล่งๆ เรียกว่า Burg ค่ะ ด้านซ้ายมือจะมีอาคารที่เดิมใช้เป็นศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Renaissance ที่ไม่ค่อยพบในเมืองนี้ ในสมัยก่อนศาลาเทศบาลเมืองใช้เป็นที่ประชุมของผู้ปกครองเมืองค่ะ สถาปัตยกรรมเราเรียกว่าสไตล์ Neogothic
ส่วนด้านขวาของ The Provinciaal Hof จะเป็นมหาวิหาร the Basilica of the Holy Blood ที่เก็บอนุสรณ์พระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูค่ะ (ในรูปบนคือตึกสีเทาๆ ด้านในสุด) รอบๆ รายรอบด้วยร้านอาหาร โบสถ์ และ ร้านขายช็อกโกแลตค่ะ
ดิสเพลย์ร้านช็อกโกแลตน่ารักมากๆ เลยล่ะ พวกช็อกโกแลตแพคเกจดีๆ ราคาจะแพงหน่อย แต่กล่องเหล็กสวยค่ะ แล้วก็มีแบบช็อกโกแลตทำเป็นรูปต่างๆ เยอะแยะเลยนะ
ที่เรามาทานอาหารเที่ยงกันคือร้าน Tom Pouce ค่ะ มีหอยอบกับไก่ย่าง อาหารก็ใช้ได้ค่ะ แต่ตามสไตล์ยุโรปคือค่อนข้างเค็ม (ไตพัง ฮ่า)
ดำๆ เป็นเกลือผสมเครื่องเทศค่ะ ไตจะพังก็ตรงนี้แหละนะ
ตรงผนังจะสังเกตเห็นลายลูกไม้ ลูกไม้เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ
เดินผ่านไป ที่สังเกตร้านที่นี่จะจัดดิสเพลย์สวยมากทุกร้านเลยค่ะ ส่วนมากเป็นร้านขายช็อกโกแลต ขนม ของเล่นไม้ อาหารต่างๆ แล้วก็ลูกไม้ขึ้นชื่อค่ะ ลูกไม้ที่นี่จะเป็นแบบถักเข็มเป็นลวดลาย ไม่ใช่แบบลูกไม้ทำงานฝีมือที่ไว้เย็บขอบกระโปรงอะไรแบบนั้นค่ะ จะมีขายเป็นพวกผ้ารองจาน ที่ไว้ตกแต่งบ้านมากกว่า
วันนี้พอแค่นี้ก่อน ครั้งหน้าจะมาเที่ยวต่อ
ชม Market Place ของเมืองบรูจกันค่ะ
*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเอง ใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
– แอดหนูจัน – บล็อกเกอร์ตัวกลม อารมณ์ดีที่ชอบหาอะไรทำสนุกๆ ภายในบ้าน รักการเขียน การอ่าน การวาดรูป และการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องเขียน อุปกรณ์งานฝีมือและอุปกรณ์ศิลปะ Craft it Myself • Draw my Life • Create my World