[Trip to Japan] ตอนที่ 7 : ฉันชอบดูวิว

หลังจากที่เที่ยวกลับมา ตอนแรกว่าจะแนะนำสถานที่แบบตามรอยเราเที่ยว วันต่อวัน แต่บางวันก็แทบไม่ได้ถ่ายรูปเลยแถมเรื่องอาจจะยาวมากคนอ่านอาจจะเบื่อซะก่อนจะอ่านจบ เลยตัดสินใจว่าจะแนะนำสถานที่ต่างๆ โดยรวมสถานที่ต่างๆ เป็นหมวดหมู่ตามความชอบ เพื่อที่ว่าจะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวตามความชอบของตนได้ค่ะ

“ฉันชอบดูวิว” คนที่ชอบดูวิวสองข้างทาง สัมผัสบรรยากาศสงบๆ ดูชีวิตผู้คนในอิริยาบถต่างๆ เดินเที่ยวสถานที่อากาศดีๆ พร้อมกับต้นไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจี ถ้าคุณเป็นคนแบบนี้ โปรดอย่าคิดว่าโตเกียวเป็นเมืองที่ไม่เหมาะกับคุณเลยนะคะ จากที่จันไปเที่ยว 7 วันเต็มๆ นั้น จันบอกได้เลยว่าโตเกียวและบริเวณใกล้เคียงนั้นมีมุมสงบๆ มากกว่าที่คิดเยอะ สวนใหญ่ๆ ต้นไม้เขียวขจี สองฝั่งถนนกลับมีมากกว่าที่คิดไว้

วิวข้างหน้าต่างจากรถไฟ NEX ระหว่างทางโตเกียวไปสนามบินนาริตะ

วิวที่เอามาให้ดูนี้เป็นตอนขึ้นรถไฟขากลับค่ะ จริงๆ ตอนนั่งจากสนามบินมาโตเกียว จันใช้บริการรถไฟ Keisei Limited Express ใช้เวลาจากสนามบินประมาณชั่วโมงกว่าๆ วิวก็เป็นแบบนี้เหมือนกันค่ะ ทุ่งหญ้าเขียว บ้านหลังเล็กๆ เรียงติดๆ กัน แต่ด้วยความง่วงเพราะยังเช้าอยู่จันเลยหลับๆ ตื่นๆ แถมนั่งรถไฟแบบนี้ดันหันหน้าเข้าหากันอีก จะถ่ายรูปคงไม่ได้ เลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากกันค่ะ

 

ทุ่งนา ท้องฟ้าสดใส รู้สึกดีจังเลยน้าา——

Ueno Koen สวนกว้างใหญ่ในโตเกียว

 

สวนอุเอโนะเป็นสวนขนาดใหญ่ (มากกกก) ในกรุงโตเกียวค่ะ จันใช้เวลาวันแรกหลังจากเก็บสัมภาระที่โฮสเทลแล้ว มาเดินที่นี่เป็นที่แรก ช่วงที่จันไปเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ใกล้เข้าหน้าร้อน ดังนั้นในสวนจึงเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่ม แม้ไม่มีซากุระให้เห็นสักต้น แต่ก็ยังทำให้รู้สึกดีค่ะ ที่นี่ทางเดินกว้างขวาง นักเรียนเอย คนแก่ แม่บ้าน ต่างก็มาเดินชมนกชมไม้กันที่นี่

 

เห็นขนาดแผนที่น่าจะพอรู้ว่าสวนใหญ่ขนาดไหน

 

ต้นไม้ตามทาง สวยดีค่ะ แม้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยก็ยังชวนให้รู้สึกสดชื่นได้อย่างน่าประหลาดใจ

 

ระหว่างทางที่เดินชมสวน จันกับเพื่อนเห็นสุ้มประตูแดง ซึ่งบอกว่าเป็นเขตศาลเจ้านั่นเองค่ะ ศาลเจ้านี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แม้แต่ในไกด์บุ๊คก็ไม่บอกชื่อ แต่เป็นศาลที่สวยดีค่ะ เลยแวะเข้าไปถ่ายรูป ศาลเจ้านี้อยู่ข้างๆ ร้านน้ำชาค่ะ

 

 

ที่นี้น่่าจะมีสุนัขจิ้งจอกเป็นสัญลักษณ์ค่ะ เห็นรูปปั้นตั้งอยู่หลายแห่งทีเดียว

 

เดินต่อมาเรื่อยๆ ก็เจอกับศาลเจ้าโทโชคุ แต่ตรงศาลไม้ปิดซ่อมค่ะ มีแต่รูปผ้าใบยักษ์มากั้นไว้ อดเห็นความสวยงามเลย

 แผ่นไม้ขอพรมากมายเต็มไปหมด เห็นข้อความภาษาไทยก็มีนะคะ

 

อ้อ บริเวณศาลเจ้า ช่วงที่จันไปมีการจัดงานอะไรสักอย่าง เกี่ยวกับดอกโบตั๋นด้วยค่ะ (อ่านออกแค่คำว่าดอกโบตั๋น ฮ่าๆ) จัดมาตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน งานจะจัดถึงวันที่ 12 พฤษภาคม แต่เนื่องจากเก็บค่าเข้าชมคนละ 600 เยน เลยไม่ได้เข้าไปดูค่ะ

 

ระหว่างทางก็มีคนมาโชว์เปิดหมวกด้วยค่ะ เล่นดนตรีบ้าง โชว์นู้น โชว์นี่ ท่าทางคนดูก็สนุกสนานไปด้วยค่ะ

เดินไปท้ายสวน มีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมเด็ก พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตก (รู้สึกตอนนั้นจะมีการจัดนิทรรศการผลงานของ ราฟาเอล จิตรกรผู้ยิ่งใหญ่ชาวอิตาลี ค่ะ) มีเด็กนักเรียนมากมายมาศึกษาค่ะ ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ มีรูปปั้นและงานแกะสลักจำลองชื่อดังๆ หลายงานค่ะ (ถ่ายมาแต่ประตูบานนี้ จำได้ว่าเคยเรียนในวิชาศิลปะฝรั่งเศส) มีรูปปั้น Penseur (The Thinker) ด้วยค่ะ

 

นอกจากจะได้เห็นงานในพิพิธภัณฑ์ นอกพิพิธภัณฑ์ก็มีอะไรแบบนี้ให้เห็นด้วยค่ะ ไม่ใช่ว่าจันเห็นที่นี่ที่เดียวนะคะ หลายที่มากที่จันไปเจอคนกำลังวาดรูป ที่อาซากุสะ ที่โยโกฮาม่าก็มี คนญี่ปุ่นนี่ศิลปินดีจังเลย

Tokyo Station เดินทอดน่องตามถนนซึมซับบรรยากาศยุโรป

 

สถานีโตเกียวเป็นสถานที่คนพลุกพล่านอยู่เหมือนกันค่ะ คิดง่ายๆ แค่จันพยายามถ่ายรูปหน้าสถานีโดยไม่ให้ติดคนนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ที่นี่เป็นย่านที่มีตึกสมัยใหม่ล้อมรอบตึกอิฐแดงสไตล์ยุโรปหลังนี้ จันว่าแม้รอบข้างจะเป็นตึกสูงระฟ้า แต่ตึกอิฐแดงนี้กลับโดดเด่นมากค่ะ อาจเป็นเพราะสีสันละมั้ง ที่ทำให้โดดเด่นออกมาจากตึกกระจกสูงใหญ่ตึกอื่นๆ

 

 

หลบจากความวุ่นวาย สู่บรรยากาศสบายๆ แบบผู้ดี

 

 

หากเดินมาเรื่อยๆ เราจะได้เห็นทางต้นไม้ขนาบถนนและทางเดิน อากาศสบายๆ คุณนายจิบชา วินโดว์ ดิสเพลย์ร้านหรู และตึกสวยๆ ไม่มีอะไรที่น่าเพลินตาเพลินใจไปยิ่งกว่านี้

 

 

ป่าเล็กในเมืองใหญ่ Shinjuku Central Park 

 

สวนที่จะแนะนำนั้นอยู่ตรงข้ามกับที่พักสามคืนสุดท้ายค่ะ จันพักโรงแรม Shinjuku New City Hotel ชั้น 14 โรงแรมนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟชินจูกุประมาณ 15 นาทีค่ะ แต่มีรถรับส่งให้อย่างดี

 

สวนนี้คือสวน Shinjuku Central Park เป็นสวนที่อยู่ระหว่างโรงแรมกับ Tokyo Metropolitan Government Building ซึ่งเป็นตึกคู่ เปิดให้คนนอกเข้าชมวิวรอบโตเกียวจากชั้น 46 ค่ะ สวนนี้เป็นสวนที่มีคนน้อย เงียบสงบ เหมาะจะนั่งเล่นท่ามกลางอ้อมกอดของต้นไม้เขียวเป็นที่สุด จันเข้าไปที่นี่สองครั้ง ครั้งหนึ่งไปเพื่อผ่านไป Tokyo Metropolitan Government Building อีกครั้งคือตั้งใจจะไปถ่ายรูปค่ะ อย่างที่เห็นว่าถ่ายออกมาไม่ติดคนเลย

 

สวนนี้เป็นสวนแบบป่า ต้นไม้ใหญ่ ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นชัดเลยว่าเป็นพื้นที่สีเขียวจริงๆ บรรยากาศจะไม่เหมือนอุเอโนะ ซึ่งมีทางเดินกว้างขวาง คนผ่านไปมา บรรยากาศครึกครื้น ที่นี่ร่มรื่น สงบ สวยงาม และเป็นส่วนตัวกว่ากันมากค่ะ

ชมโตเกียวรอบทิศแบบไม่เสียสตางค์

 

ตึก Tokyo Metropolitan Government Building เป็นตึกสูงตั้งอยู่ติดสวน Shinjuku Central Park ค่ะ พอออกจากสวนแล้ว เจอทางเดินขนาบไม้พุ่ม ดอกชมพูบานเต็มต้น เดินต่อไปก็ถึงเลย

 วันที่จันไปเป็นวันอาทิตย์ ตึกนี้แทบไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเลย (ตกใจอยู่เหมือนกัน นึกว่าปิด) แต่พอเดินลงไปชั้นใต้ดิน เจอป้าย Observatory นักท่องเที่ยวเต็มเลยค่ะ ลิฟท์ขึ้นมีอยู่ตัวเดียว มีพนักงานคอยนับจำนวนคน ต้องต่อแถวรอค่ะ ที่นี่ขึ้นฟรี จำกัดเวลาไม่เกิน 40 นาที ปกติมีสองตึก แต่วันที่ไปรู้สึกจะเปิดตึกเดียวค่ะ

 วิวจากชั้นล่างของตึก

 

นอกจากเห็นวิวแบบ 360 องศาแล้ว เขายังมีป้ายบอกด้วยว่า ตึกไหนเป็นตึกอะไร ที่นี่สูงจนเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เลยนะคะ

ออกนอกเมืองชมวิวทะเลที่โยโกฮาม่า

ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะไป Kawaguchi Lake เพื่อชมทิวทัศน์ฟูจิสะท้อนทะเลสาบ แต่พอถึงวันที่ไปกลับตื่นสายโด่ง คุยกับ Reception ของโฮสเทล เขาบอกว่าน้ำแห้งจนเดินข้ามได้ แล้วแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไร เลยเปลี่ยนแผนไปโยโกฮาม่าแบบเช้าเย็นกลับแทนค่ะ

 

บางคนบอกว่าเสน่ห์ของโยโกฮาม่านั้นคือช่วงเวลากลางคืน แต่การเดินเที่ยวบริเวณสถานที่ปลอดโปร่งริมทะเล รายรอบด้วยเรือใหญ่เล็ก และเห็นวิวตึกกับชิงช้าสวรรค์อยู่ไกลๆ นั้นเป็นความรู้สึกดีมากๆ ชวนให้ร้อง อ๊า~ ดีจังเลย ออกมาค่ะ

 

โยโกฮาม่าเป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างแบบยุโรปอยู่มากค่ะ อย่างในรูปคือ ศาลาอนุสรณ์ท่าเรือโยโกฮาม่า เมืองนี้เรียกว่าเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมผสมอยู่หลายๆ แบบก็ว่าได้ ที่นี่มีทั้งไชน่าทาวน์ และอาคารเก่าสไตล์ยุโรป ถนนก็ขนาบข้างด้วยต้นไม้ใหญ่ พื้นปูด้วยกระเบื้องมีลวดลายน่ารักๆ เป็นช่วงๆ เหมาะแก่การเดินเล่นสบายอารมณ์มากๆ ค่ะ

 พิพิธภัณฑ์ศุลกากร ไม่ได้เข้าไปเพราะเสียค่าเข้าค่ะ

 

 

มองจากหน้าพิพิธภัณฑ์เห็นไดโนเสาร์คอยาวอยู่ไกลๆ มองไปอีกฝั่งก็เห็นวิวตึกสูงกับชิงช้าสวรรค์

 

 

 

เดินมาข้างหน้าไดโนเสาร์ เป็นลานโล่งๆ ริมทะเล มีเรือจอดอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ

 

เดินออกมาทาง Osanbashi เจอร้านขายเสื้อผ้าเก๋ๆ สไตล์มารีนด้วยค่ะ

 

Osanbashi จันไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าคืออะไรแน่ แต่มันเป็นทางเดินไม้ ปูยาวเหมือนเป็นภูเขา มุ่งตรงไปสู่ลานที่จอดเรือ และมีพวกร้านค้า และ ห้องกระจกอยู่ข้างล่าง (ที่ปิดวันที่จันไป เลยไม่รู้อยู่ดีว่าคืออะไร) เท่าที่ดูเหมือนคนจะเดินเล่น นั่งพัก หรืออะไรทำนองนี้ ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษค่ะ อ้อ จากตรงนี้มองเห็นทั้งไดโนเสาร์ เรือเดินสมุทร และหอคอยโยโกฮาม่า เหมาะจะมานั่งพักชมวิวมากค่ะ แต่ระวังร้อนเพราะไม่มีหลังคาเลยค่ะ

 

 

ทางเดินที่โยโกฮาม่า ร่มรื่นและสวยงามมากค่ะ

 

ส่งท้ายด้วยร้านอาหารสแกนดิเนเวียและหอคอยโยโกฮาม่านะคะ :DDD

ครั้งนี้เอาใจคนชอบดูวิวไปแล้ว ครั้งหน้าจะเอาใจคนแบบไหน ต้องติดตามกันนะคะ

*********************

ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า