Nuchun's Atelier

บล็อกรีวิวเครื่องเขียน l สีมาร์คเกอร์ l อุปกรณ์วาดรูป พร้อมวิธีทำงานประดิษฐ์สนุกๆ ที่ทำได้ที่บ้าน

Redecorate ตอนพิเศษ : แต่งห้องอย่างไรให้คุ้มค่าและอาจมีอื่นๆตามมา

พอดีวันนี้ได้อ่านนิตยสาร Room ฉบับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาค่ะ
อันที่จริงซื้อไว้นานแล้วละ แต่เก็บเข้ากรุไปก่อนที่จะได้อ่านละเอียดๆ

 

ในเล่มนี้มีคอลัมน์ที่ชื่อว่า “4 ห้อง แต่งอย่างไรให้คุ้มค่า”
จันเห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยขออนุญาตเอามาลงอย่างย่อนะคะ

ในคอลัมน์นี้ได้แจกแจงเคล็ดลับการแต่งห้องหลักๆ
ได้แก่ ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ และ ห้องนั่งเล่นค่ะ

เริ่มจากห้องนอนก่อน
ห้องนอนที่ต้องให้ความสำคัญคือที่นอนและเตียงค่ะ

ที่นอนต้องเป็นที่นอนนุ่มกำลังดี ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป
เขาบอกว่าวิธีลองให้ลองนอนดูสิบห้าถึงยี่สิบนาทีว่าสบายจริงๆ
ส่วนเรื่องความนุ่มให้สอดมือใต้แผ่นหลัง
สอดง่ายคือแข็งไป
สอดยากคือนุ่มไปค่ะ
((แต่สำหรับจันซึ่งมีร่างกายอันใหญ่โต ฮ่าๆ
จันว่าที่นอนแข็งๆนิดๆจะดีกว่าค่ะ
เพราะเมื่อเรานอนไปนานๆมันจะนิ่มขึ้นเอง
แล้วเมื่อนิ่มขึ้นจะทำให้ปวดหลังอ่ะค่ะ
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม แต่ก็อยากให้รับข้อนี้ไว้พิจารณาด้วย))

ส่วนเรื่องเตียง
เตียงจะมีสองแบบคือแบบโปร่ง(มีใต้เตียง)
จะช่วยให้ห้องไม่ดูอึดอัดเกินไป เหมาะกับห้องเล็กๆ
ทำความสะอาดง่าย เคลื่อนย้ายได้สะดวก
ส่วนแบบทึบ
จะให้ความรู้สึกมั่นคงแข็งแรง
นอกจากนี้ถ้าเลือกเตียงแบบที่เป็นลิ้นชักใต้เตียง
ก็จะช่วยเพิ่มที่เก็บของได้ เป็นการประหยัดพื้นที่
ก็เลือกตามขนาดห้อง การใช้งาน และความเหมาะสมนะคะ

ห้องต่อมาคือห้องครัวค่ะ
ห้องครัวพิจารณาความถี่การใช้งาน
และปริมาณการใช้งานเป็นหลักค่ะ

ถ้าบ้านไหนเป็นแม่ศรีเรือน
ทำกับข้าวกินกันทุกวัน
ก็ควรมีครัวที่แข็งแรงทนทาน
โครงสร้างภายในอาจเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
จะได้ราคาไม่แพง
ถ้าใช้ครัวกึ่งสำเร็จก็ควรจะมีที่ปูรองเคาท์เตอร์เป็นหินแกรนิต
จะได้ทนทานและทำความสะอาดง่ายค่ะ
ส่วนเตาก็ควรใช้เตาแก๊ส
เพราะจะประหยัดกว่าเตาไฟฟ้าสองเท่าเชียวนะคะ

แต่ถ้ามีครัวไว้อุ่นอาหารหรือทำอะไรง่ายๆ
ก็ใช้เป็นครัวกึ่งสำเร็จทีใช้ไม้ MDF น้ำหนักเบาก็ดูทันสมัยดีค่ะ
เตาจะใช้เตาไฟฟ้าดูเรียบสวยดี

อีกหนึ่งอย่างที่ต้องให้ความสำคัญคือ ตู้เย็น ค่ะ
ตู้เย็นต้องซื้อให้พอดีกับสมาชิกในครอบครัวนะ
โดยเริ่มนับความจุที่สองคนเป็น 2.5 คิว
เพิ่มหัวละคิวสำหรับคนต่อมาก็จะได้ความจุโดยประมาณค่ะ

มาต่อกันที่ห้องรับแขก
ห้องรับแขกอาจจะไม่ใช่ห้องที่สำคัญมากนักและมักจะถูกรวมกับห้องนั่งเล่นอยู่บ่อยๆ
ห้องๆนี้ความสวยงามของการออกแบบและความสบายเป็นสิ่งสำคัญ
การที่จะให้ห้องนั้นอยู่สบายที่สำคัญคืออากาศค่ะ
หน้าต่างกระจกบานใหญ่อาจจะทำให้ดูสบายตา
แต่แสงที่เข้ามาทำร้อนอบอ้าวได้
เราจึงควรเลือกม่านที่กันความร้อนอย่างม่านแบล๊กเอ๊าต์
ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้แอร์ลดลงไปด้วย
อีกทั้งวัสดุที่ใช้ทำโซฟาก็สำคัญ
ในห้องที่อากาศร้อนไม่ควรจะใช้โซฟาหนังเพราะทำให้ร้อนกว่าเดิม
และระบายอากาศไม่ได้ดีนัก
โซฟาผ้าหรือหวายเป็นทางออกที่ดีกว่าในกรณีนี้

แต่ถ้าใครที่อยู่ในห้องเย็นๆและอยากได้โซฟาหนังแท้ราคาไม่แพง
ก็ควรเลือกแบบผสมคือส่วนที่รองนั่งทำจากหนังแท้
แต่ส่วนที่ไม่สัมผัสตัวใช้หนังเทียม
จะถูกกว่าหนังแท้ทั้งตัวมาก

ความสวยงามที่สำคัญของห้องนี้คงหนีไม่พ้นผนัง
ใครเป็นหนุ่มสาวขี้เบื่อละก็..
ให้ใช้สีทาผนังหรือวอลเปเปอร์กระดาษจะดีกว่า
เพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก มีให้เลือกหลากหลาย และสามารถเปลี่ยนได้บ่อยๆ

(เพิ่มเติมนะคะ)
แต่ถ้าอยากเปลี่ยนอารมณ์ห้องโดยไม่ต้องทำอะไรมาก
ที่อยากจะแนะนำคือซื้อหลอดไฟให้ต่างจากที่เคยใช้มาเปลี่ยนค่ะ
แสงสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของห้องได้เช่นกัน
อย่างหลอดเทียนที่ไฟเป็นสีออกส้มๆนวลๆ
ก็ให้อารมณ์อบอุ่นและหรูหราได้
หรือหลอดนีออนก็ช่วยให้สีของห้องออกมาชัดเจน
ดูสดใส (จะได้ผลดีมากกับห้องสีแจ่มๆ)

หรือเพียงแค่เปลี่ยนปลอกหมอนที่วางไว้บนโซฟาก็ช่วยสร้างสีสันได้เช่นกัน
ถ้าคุณไม่อยากลงทุนขนาดซื้อสีกระป๋องมาละเลงเองแล้วละก็
ลองหาของตกแต่งมาสับเปลี่ยนบ้าง..ก็จะได้ห้องอารมณ์ใหม่ที่ไม่ต้องทำอะไรมากแล้วล่ะค่ะ

ห้องสุดท้ายที่หนังสือเล่มนี้แนะนำไว้คือห้องน้ำ
เทคนิคการประหยัดน้ำที่เราเคยได้ยินมาคือการใส่ขวดในถังเก็บน้ำใช่ไหมคะ
แต่หากเราทำห้องน้ำใหม่..เราก็ควรจะแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น
นั่นคือการใช้ชักโครกที่สามารถเลือกปริมาณน้ำที่ใช้ในการชำระได้

ส่วนการตกแต่งห้องน้ำ..นับว่ามีค่าใช้จ่ายสูงมาก
อย่างกระเบื้องโมเซคตารางเมตรละหลากตังค์อยู่
การตกแต่งควรตกแต่งเฉพาะจุด
ไม่ต้องใช้กับทั้งห้อง
ควรตกแต่งเฉพาะที่มองเห็นชัดเจน
เพื่อเพิ่มความเด่นให้มากขึ้นหรือเน้นที่ระดับสายตาจะสิ้นเปลืองน้อยลงค่ะ
(เพิ่มเติมนะคะ
การใช้กระเบื้องโมเซคซึ่งเป็นชิ้นเล็กๆนั้น
ขอให้พิจารณาเรื่องการทำความสะอาดด้วยนะคะ
เพราะร่องระหว่างกระเบื้องนั้นสามารถทำให้เกิดรอยดำได้ง่าย
ควรคำนึงถึงการทำความสะอาดก่อนใช้ด้วยค่ะ)

ส่วนการเลือกพื้นนั้น
ถ้าใครอยากปูพื้นด้วยหินอ่อนละก็
ขอให้ระวังด้วยนะคะ
เพราะหินอ่อนเวลาเจอน้ำจะลื่น
ควรใช้เฉพาะบริเวณที่ไม่เปียกอย่างตรงอ่างล้างมือหรือชักโครกเท่านั้น
ส่วนที่เจอกับน้ำแนะนำเป็นกระเบื้องธรรมดาจะดีกว่า
หรือกระเบื้องลายหินอ่อนก็ไม่เลวค่ะ

ก็หมดแล้วค่ะ
ถ้าเจออะไรอีกจะอิดิทเพิ่มนะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ^^

*********************
ทั้งหมดเป็นการเขียนและวาดโดยจันเองใครจะก๊อปไปไว้ไหน
เครดิต www.nuchun.com ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า